Monday, February 29, 2016

ภาษีอากรสรรพสามิตที่หนึ่งที่ควรรู้

ภาษีอากร

การเสียภาษีอากรเป็นหน้าที่ที่พึงต้องปฏิบัติในฐานะที่เป็นหมู่ชนของประเทศชาติที่มีความรับผิดชอบคนหนึ่ง นอกจากบุคคลธรรมดาทั่วไปมีหน้าที่ต้องไปเสียค่าธรรมเนียมแล้ว สหภาพทางงานก็มีหน้าที่ดังกล่าวเช่นเดียวกัน แต่จะมีความซับซ้อนในแง่ของรายละเอียดเนื้อหาที่เพิ่มมากขึ้นจากบุคคลธรรมดาอยู่ซักหน่อยแต่ก็ไม่ใช่ความติดขัดในการเรียนรู้ในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องของภาษีนั้นเป็นสิ่งจำเป็นที่เจ้าของธุรกิจรายใหม่จำเป็นต้องเรียนและทำความเข้าใจให้ชัดเจนเสียก่อน เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจโดยตรง ทั้งยังมีผลในทางกฎเกณฑ์ในการทำธุรกิจอีกด้วย โดยรายละเอียดของภาษีเบื้องต้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจมีดังนี้

ภาษีอากร

ภาษีอากร

ความหมายของภาษี

ภาษี หมายถึงเงินที่เรียกเก็บจากประชาชนเพื่อนำไปวิวัฒน์ประเทศ ซึ่งมีอยู่ 2 ประเภทคือ ภาษีทางตรง เป็นภาษีที่เก็บจากประชาชนที่มีรายได้จากการประกอบอาชีพและภาษีที่ได้จากการประกอบกิจการทางการซื้อขาย บริการ และอุตสาหกรรม และภาษีทางอ้อม เป็นภาษีที่เก็บจากประชาชนเมื่อซื้อผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆที่เรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่าภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งประชาชนทุกคนจำเป็นที่จะต้องเสียภาษีเพราะประโยชน์ของการเสียภาษีจะกลับมาตอบแทนประชาชนใน 2 ลักษณะคือ 

  1. นำไปมอบเงินเดือนให้ข้าราชการเพื่อให้บริการประชาชนและใช้จ่ายเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ของสถานที่ราชการต่างๆ
  1. นำมาใช้ในการปรับปรุงประเทศ เช่น สร้างถนน สร้างโรงเรียน เป็นต้น ประเภทของภาษีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ภาษีที่มีความเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจมีอยู่มากมายหลายประเภท

แต่ในบทความนี้จะขอกล่าวถึงเพียง 2 ประเภทเท่านั้น คือ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีนิติบุคคล เหตุผลก็เนื่องมาจากมีความเกี่ยวข้องกับผู้ที่เริ่มทำธุรกิจใหม่ ที่กิจการยังไม่มีขนาดไพศาลมากนัก จึงเข้าเกณฑ์ของภาษีทั้ง 2 ประเภทนี้มากที่สุด ซึ่งพลความของภาษีทั้ง 2 ประเภทมีดังต่อไปนี้

- ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

คือ ภาษีที่เรียกเก็บจากบุคคลธรรมดาทั่วไป ตามที่กฎเกณฑ์บัญญัติและมีรายได้เกิดขึ้นตามเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งเจ้าของกิจการหรือธุรกิจอะไรก็ตามแต่ ที่มีตัวเองเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว จะเข้าข่ายอยู่ในหลักเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีประเภทนี้ โดยปกติจะทำการเรียกเก็บเป็นรายปี โดยรายได้ที่เกิดขึ้นในปีใดๆก็ตาม ผู้มีเงินได้ต้องนำไปยื่นแสดงรายการภาษีที่กำหนดในช่วงระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคมของปีถัดไป

- ภาษีเงินได้นิติบุคคล

คือ ภาษีอากรประเภทหนึ่งที่ข้อกำหนดไว้ ซึ่งจะเรียกเก็บจากนิติบุคคล ที่มีความหมายถึงการรวมตัวกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปในการขึ้นบัญชีเพื่อจัดตั้งขึ้นกลุ่มขึ้นเพื่อประกอบธุรกิจอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งในที่นี้หมายถึงห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด ฯลฯ ด้วยเป็นต้น

ข้อกำหนดในการคิดเงินภาษีอากรจากผู้สร้างกิจการ

หลักเกณฑ์ในการจัดเก็บภาษีเงินได้ในภาษีแต่ละลักษณะมีความแตกต่างกันออกไป โดยเกณฑ์การเรียกเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่เป็นผู้ที่เป็นเจ้าของธุรกิจแต่เพียงผู้เดียวจะต้องไปเสียภาษีตามกฎเกณฑ์ดังนี้คือ กรณีไม่มีคู่สมรสและมีรายได้ที่ประเมินแล้วเกิน 30,000 บาท นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคมจะต้องเสียภาษี ถ้าน้อยกว่านี้ได้รับการละเว้น กรณีมีคู่สมรสต้องมีเงินได้ที่รวมกันแล้วเกิน 60,000 บาท และห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคลถ้ามีเงินได้เกิน 30,000 ก็ต้องเสียสรรพากรเช่นกัน ส่วนแหล่งกำเนิดของภาษีเงินได้นิติบุคคลมาจากการคำนวณเงินได้ที่ใช้เป็นใบสำคัญในการคำนวณคูณด้วยอัตราภาษีที่กำหนด ซึ่งเงินได้ที่ต้องเสียภาษีอากรรายได้นิติบุคคลหรือฐานภาษีเงินได้นิติบุคคลนั้น ทั่วไปมักมาจากดอกผลสุทธิที่คำนวณตามเงื่อนไขที่กะเกณฑ์ แต่ทั้งนี้เพื่อความเป็นธรรมจึงทำการบัญญัติการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลจากเงินได้ที่แตกต่างกันดังนี้ 1. กำไรสุทธิ 2. ยอดรายได้ก่อนหักรายจ่าย 3. เงินได้ที่จ่ายจากหรือในประเทศไทย 4. การจำหน่ายเงินกำไรออกไปจากประเทศไทย เป็นต้น ซึ่งการคำนวนภาษีทั้ง 2 รูปแบบ ผู้ประกอบการสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.rd.go.th/publish/286.0.html

การยื่นแบบแสดงภาษี

สำหรับเงินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คุณสามารถยื่นได้ที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา โดยต้องเขียนเติมเอกสารให้ครบถ้วนจากนั้นจึงยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 หรือ ภ.ง.ด. 91 ส่วนสรรพากรเงินได้นิติบุคคล ถ้าอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครให้ยื่นแบบแสดงรายการภาษี ภ.ง.ด.50 ,ภ.ง.ด.51,ภ.ง.ด.53,ภ.ง.ด.54 ได้ที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาในท้องที่สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ถ้าในเขตจังหวัดอื่นให้ยื่นแบบแสดงรายการภาษี ภ.ง.ด.50 ,ภ.ง.ด.51,ภ.ง.ด.53,ภ.ง.ด.54 ที่ว่าการอำเภอหรือ อำเภอท้องที่ที่สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่   แต่ในปัจจุบันการยื่นภาษีแสดงรายได้นั้นเป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกรวดเร็วและเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการมากขึ้น โดยเปิดให้บริการยื่นแบบแสดงรายชื่อเงินภาษีผ่านทางอินเตอร์เน็ตโดยคลิกไปที่เว็บไวต์ http://rdserver.rd.go.th/publish/index.ph

ผู้ผลิตควรตระหนักไว้ว่าเงินภาษีที่จ่ายออกไปนั้นจะมีส่วนช่วยขยายประเทศชาติให้เจริญมั่นคงมากขึ้น ซึ่งท้ายที่สุดผลดีก็จะมาตกอยู่กับตัวผู้ประกอบการนั่นเอง ดังนั้นการจ่ายภาษีจึงเป็นหน้าที่ที่ข้าแผ่นดินเต็มขั้นพึงกระทำ อย่าได้คิดพยายามบ่ายเบี่ยง  หรือหาระยะห่างทางกฎหมายที่จะไม่จ่าย เพราะการเสียเงินภาษีคือหน้าที่ของปวงชนที่ดีที่ควรปฏิบัติตนกันเป็นประจำทุกปี



ที่มา : https://www.unicef.or.th/supportus/th

No comments:

Post a Comment