Saturday, February 27, 2016

บริจาคเงิน บริจาคใจ

บริจาคเงิน

บริจาคเงิน หามิได้เรื่องยากลำบากอะไรแค่เคลื่อนที่ไปละแวกปากตรอก หยอดเงินตราใส่กล่องบริจาคในเซเว่นที่มีอยู่ทุกซอยก็แค่เนี้ยง่ายจะตายแต่จะมีใครรู้สึกหรือเปล่าว่าเงินตราไปไหนหยอดแล้วเงินไปไหน  ผู้ที่ปรารถนาเงินตรานานัปการที่คอยโอกาสจากข้าพเจ้าเพียงแค่ฉันบริจาคเงิน ผู้รับใคร่ได้แค่ช่องทางที่ดิฉันจะหยิบยื่นมอบให้ แค่บริจาคเงิน เศษสตางค์ เล็กๆน้อยๆนี้ก็อาจสร้างเบื้องหน้าให้ทุกคนมานักต่อนักแล้ว เชื่อหรือเปล่าว่า เงินเหรียญเล็ก ๆที่ดีฉันไม่ใคร่ประสงค์เผื่อไว้ไว้ พร้อมทั้งทอยให้กระยาจกริมถนน ที่ร้องเรียกมอบให้หรู ๆว่าฉันได้บริจาคเงินให้พวกเขาทั้งหลายด้วยซ้ำ ก็เพราะว่าเขามิได้อ้อนวอน ข้าพเจ้าให้ด้วยความอาสา ขอทาน ร่ำรวยกว่าข้าพเจ้าหลายเท่านักเพราะกากสตางค์นี่แหละ วนิพกบางคนแรก ๆก็ขอไปงั้น ๆ ไม่มีอะไรทำ หลัง ๆ มีเงินทองเก็บมากมายเข้าก็ชักเพลินใจ กลายเป็นร้องขอจนเป็นอุปนิสัยก็เพียบ เรียกว่าลูกอีช่างขอ แต่ที่น่าพิศวงกว่านั้นก็เป็นพวกที่ ไม่ได้ขออย่างเดียวกัน แต่ให้เรียกให้ตระการตาว่า บริจาค คนรุ่นเก่า ๆ อาจจะไม่เคยชินกับ การบริจาคแบบนี้ สำหรับก่อนหน้าไม่ค่อยจะมี ตอนนี้ใครมีเด็กวัยกำลังร่ำเรียนก็จะเห็นการ บริจาคเงิน แบบนี้ บริจาคเงินทั้งทีควร 5 หมื่นอัพ กับการจะเข้าเรียนสถานที่เรียนซักแห่ง อย่างประเดี๋ยวนี้ ในกทม.อาจเห็นภาพไม่ค่อยชัดก็เพราะว่ามีตัวเลือกสถานที่เรียนมากมายก่ายกอง แต่ในชานเมือง มีอำเภอเมือง อำเภอเดียว นักเรียนของทั่วจังหวัดก็อยากได้จะมาศึกษาในเมือง ขบวนการ บริจาคเงิน ก็เริ่มนี้ ขอสนับสนุนบริจาคเงิน 5 หมื่น ช่วยโรงเรียน แล้วเยาวชนจะได้เรียนรู้ เจ็บปวดหรือไม่ มิจ่ายก็ได้ แต่ไม่ได้เล่าเรียนนี่คือสัจธรรมอันแสนเจ็บช้ำน้ำใจของผู้ปกครองที่มีลูกหลานฉลาดหลักแหลม สอบได้แต่ปราศจากทางเลือกศึกษาโดยไม่คุ้นเคยคำว่า บริจาคเงิน

 บริจาคเงิน

บริจาคเงิน

บริจาคเงิน หากจะเจรจาไปแล้ว ไทยของดิฉันก็ติดอันดับในเรื่องราวการบริจาคเงินกับเขาอย่างเดียวกัน เปรียบชั้นคฤหบดีแถวหน้าก็ว่าได้หากเอาเรื่อง บริจาคเงินมาเป็นตัววัด ปี สองพันสิบสี่  ดีฉันติดอันดับ  3 เรื่องราวบริจาคเงินเลยทีเดียว ด้วยคนไทยขี้เวทนา พร้อมด้วยการบริจาคเงิน มีผลตรวจงานมาแล้วว่าเป็นวิธีการที่ง่ายๆสุด ๆ ที่คนดิฉันจะสละกัน อย่างขณะนี้ที่มีข่าวออกทีวี ชาวไทยนี้ดี เสียสละให้วัดซะมากหลาย จนขโมยมาปล้น ตู้บริจาคไปแล้วถึง แปดใบ ตอนนี้ก็ต้องรับบริจาคกล่องรับสละไปพลาง ๆการ บริจาคเงิน ในอาคารบ้านเรือนข้านิยมเสียสละให้กับมูลนิธิต่าง ๆ ด้วยจะเน้นการบริจาคเงิน มอบให้สำหรับจุนเจือเด็กกำพร้า การบริจาคเงิน เพื่อเป็นทุนการศึกษาผู้เยาว์ พร้อมด้วยแม้เป็นระยะเวลาที่มีปัญหากรณีพิบัติต่าง ๆเช่นปี ห้าสิบสี่ ที่มีน้ำหลากกับปี 46 ที่เกิด ซึนามิ ชาวไทยก็มีการ บริจาคเงิน กันอย่างล้น ส่วนสิทธิคุณค่าที่ได้แม้มีการบริจาค อย่างคนที่สละอย่างอื่นที่หามิได้ตัวสตางค์ โดยบางคนก็ไม่นิยม บริจาคเงิน แต่ จะสละของเครื่องใช้ทดแทน หรือ สละเลือด สละเกร็ดเลือดที่สามารถทำได้ทุกเดือน หรือหากใครเครื่องใช้ที่เรือนเพียบก็อาจจะชี้ทางบริจาคได้ หรือใครพร้อมกับที่จะบริจาคกาย แขนขา ดวงตา ก็สามารถทำได้หากไม่อยากได้บริจาคเงิน การบริจาคเงิน นั้นทุกวันนี้มีการกำหนดจุดมุ่งหมายชัดเจน อาทิเช่น  บริจาคเงิน สำหรับไถ่ชีวิตวัวกระบือ บริจาคเงิน สำหรับ สงเคราะห์น้ำท่วม อันนี้จะทำให้ดิฉันรู้ว่าสตางค์ดีฉันไปแห่งใดบ้าง อย่างที่วัด การบริจาคเงิน บางวัด เสียสละ สิบ บาท 20 บาท ก็มีการขึ้นชื่อเสียงเรียงนาม แจ้งไว้ว่าใครบริจาคบ้าง ส่วนการนำไปใช้ก็ต้องสุดแล้วแต่วัดวาอารามว่าจะใช้ประโยชน์ดำเนินงานอะไร

บริจาคเงิน

บริจาคเงิน

การบริจาคเงิน กับ การบำเพ็ญทานปัจจุบันนี้ หากจะทำก็ต้องเลือกสรรทำให้ดี ให้ตรงจุด ตัวอย่างเช่น การซื้อนก ปลา เพื่อยกมาไปอนุญาต หากมีความจงใจดีก็อย่าไปซื้อหา นกปลาที่เขามีการเตรียมการไว้ มันก็เปรียบเสมือนไปสนับสนุนให้เขา ไปจับ ไปล่อมาค้า กับนกที่ฉันปล่อย ๆ ไป มันก็แต่มาที่เดิม ก็นกมันปรากฏแต่ในกรงไม่รู้จะไปไหน หรือการ บริจาคเงิน ให้เด็กวนิพก หรือคนขอเงินต่าง ๆ ยิ่งให้ก็ประดุจดังเป็นการช่วยเหลือให้มีกระยาจกอยู่ถัดจาก ลองดีฉันไม่ให้ ไม่ส่งเสริม เขาก็เลิกขอกันไปเอง การบริจาคเงินชั่วพริบตาเดียวนี้ ดูจะเป็นเรื่องราวเป็นประจำ ไปแล้วสำหรับคนทั่ว ๆไป เพราะแค่คิดว่าหยอดไป ไม่กี่ตังค์ ไม่ต้องคิดสิ่งไรมาก เช่นว่า ตู้ที่ตั้งอยู่ในร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ หรือในห้างที่ ชำระสตางค์ค่าของใช้เสร็จปั๊บ ก็เจอตู้สละ ฉันก็ทำจนเป็นความคุ้นชินที่ต้องหยอด ด้วยไม่รู้เรื่องว่าเงินตรานั้นเอาไปทำอย่างไร เอาไปไหน  กับการบริจาคเงินกับสื่อต่าง ๆ ที่มีการโหนกระแสต่าง ๆ ให้กระผม บริจาคเงินกัน เมื่อก่อนจะมีการเชิญบุคคลบริจาคเงินโดยมีการขับกล่อม คนก็โทรเข้าไปสละมากหลาย แม้ใครมีใจที่ทบทวนดูจะเสียสละจริง ๆ ก็ตรองกันสักนิดก่อนได้คิดที่จะหยอดสตางค์ หรือโอนสตางค์ให้ใคร ถ้าหากคิดว่าใช่ ก็บริจาคไปเถอะ อย่างน้อย ๆ ก็ทำให้เพลิดเพลินใจ สตางค์จะไปไหนก็ค่อยมาว่ากัน

บริจาคเงินแล้ว เว้นแต่ว่าได้ความภูมิใจ หากใครเสียสละบ่อย ๆ ก็ลองดูเรื่องราวการลดภาษีไว้บ้าง คนกินเงินเดือนที่ค่าตอบแทนรายเดือน 2 3 หมื่นทางบ.ของดีฉันมีการหักเงินได้ส่งภาษีไปทั้งปวงเดือนหากกระผม มิได้นำเงินตราที่ฉันเสียสละ ไปทุกเดือนมาหักลดหย่อนภาษี สมมุติ ค่าจ้างรายเดือน 25,000 รวมกันโบนัส อีกประมาณ 8 เก้าหมื่น รวมกันแล้วจ่ายภาษีอากรไป เกือบ หกพัน ถ้าสนับสนุนบุตรธิดา บิดา แม่ด้วย กับ ใช้สิทธิลดจากการบริจาคเงินมาประสานด้วย ก็จะได้คืนเงินภาษีจริงๆ หากข้าสละให้สถานที่เรียนตามที่สรรพากรระบุ หลากหลายแห่งก็จะนำมาหักลดหย่อนได้ถึง 2เท่าของยอดเงินบริจาค แต่เช่นนี้ต้องดูบัญชีชื่อจากภาษีอากรพร้อมกันไปด้วยเพื่อให้จะได้ใช้สิทธิ์ให้แรงกล้า

บริจาคเงิน ดีฉันจะเสียสละที่ใด ครั้งไหน กับให้ใครก็ได้เป็นสตางค์ของเรา สิทธิ์ของข้าที่จะ บริจาคเงิน แต่ ลองนิดนึงว่า เขาเอาไปทำสิ่งไร ที่ใด ให้เข้ากับใคร น่าสรรเสริญมากน้อยแค่ไหน อย่าแค่ หย่อน ใส่ตู้ มิได้ดูตาม้าตาเรือ ทำแล้วก็ให้ดีนิด แม้กระผมนึก จะ บริจาคเงิน



ขอบคุณบทความจาก : https://www.unicef.or.th/supportus/th/campaign/Earthquake_Nepal_th

No comments:

Post a Comment