Monday, February 29, 2016

เด็กในวันนี้ คือผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า

สิทธิเด็ก

คำกล่าวที่ว่า เด็กในวันนี้ คือผู้ใหญ่ในวันหน้า หรือ เด็กเปรียบเสมือนผ้าขาว เราอยากให้ผ้านั้นเป็นสีอะไร ก็อยู่ที่ผู้ใหญ่จะระบายลงไป แต่เด็กบางคน เขาไม่ได้โชคดีเหมือนกันทุกคน บ้างอาจจะเกินมาในครอบครัวที่ดี บ้างอาจจะเกิดมาในสังคมที่โหดร้าย นั้นทำให้มีการเกิดสิทธิเด็ก(Right of the Child)ขึ้นมา เพราะเด็กทุกคนที่เกิดมา ต่างต้องการความรักความเอาใจใส่จากทั้งพ่อและแม่ หรือกระทั้งผู้ใหญ่ในสังคม การที่จะให้เด็กเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีประสิทธิภาพ ผู้ใหญ่ก็ต้องปฎิบัติต่อเด็กเปรียบเสมือนเป็นมนุษย์ด้วยกัน ซึ่งเด็กในที่นี่ หมายถึงทุกคนที่มีอายุต่ำกว่า18ปี สิทธิเด็กนี้ต่างลงความเห็นว่าทำเรื่องนี้ให้ถูกต้องตามกฏหมาย โดยการร่วมรวบรวมรายชื่อ ว่าให้วันที่ 20 พฤศจิกายนของทุกปี เป็น ‘วันสิทธิเด็กสากล’ เพื่อให้คนทุกคนให้ความสำคัญและใส่ใจกับสิทธิแก่เด็กกันมากขึ้น

 สิทธิเด็ก

สิทธิเด็ก

กลุ่มของสิทธิเด็กจะแบ่งออกเป็นสองกลุ่มด้วยกัน ได้แก่

  1. กลุ่มสิทธิทั่วไปที่เด็กควรได้รับ

เป็นกลุ่มของเด็กตามปกติ ที่ต้องได้รับการส่งเสริมการพัฒนาให้เป็นไปตามช่วงอายุของเด็ก โดยที่จะต้องไม่มีการเลือกปฎิบัติโดยเด็ดขาด

  1. กลุ่มสิทธิสำหรับกลุ่มเด็กที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ

คือกลุ่มเด็กที่ได้รับการทารุณ ได้รับความรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นทั้งทางร่างกายและทางสภาพจิตใจ รวมทั้ง เด็กที่เกี่ยวข้องกับการทำความผิด ซึ่งเป้าหมายของกลุ่มนี้ จะให้โอกาสในการตัดสิน และช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจ ความประพฤติของเด็ก เพื่อให้เด็กได้มีโอกาสเปลี่ยนมุมมองความคิดและกลับมาใช้ชัวิตอยู่ในสังคมได้โดยไม่กลับไปทำความผิดอีก

          กฏหมายสิทธิเด็ก มีที่มาจากอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก(Convention on the Rights of the Child) ซื่งเป็นกฏหมายระหว่างประเทศที่ได้รับกำหนดให้ปฏิบัติเช่นเดียวกันหมดทั่วโลก โดยที่กำหนดเอาสิทธิพื้นฐานเอาไว้ 4 ประการ ได้แก่

  1. สิทธิในการอยู่รอด(Right of Survival) กล่าวคือ เด็กทุกคนเมื่อเกิดมา มีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ ไม่ว่าจะเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่ผิดปกติหรือไม่สมบูรณ์ก็ตาม โดยที่เด็กต้องถูกพาไปจดทะเบียนตั้งแต่แรกเกิดและได้รับสิทธินี้โดยทันที รวมไปถึงสิทธิที่จะได้ถูกการเลี้ยงดูทั้งทางร่างกาย(มีสิทธิที่จะได้รับอาหารในปริมาณที่เพียงพอและสะอาด) จิตใจ ตลอดจนที่อยู่อาศัยให้เกิดความปลอดภัย โภชนาการและการบริการทางการแพทย์(การได้รับสิทธิวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ)
  2. สิทธิได้รับการคุ้มครอง(Right of Protection) เป็นสิทธิที่เด็กจะได้รับการปกป้องคุ้มครองให้รอดพ้นจากการทารุณทุกรูปแบบ เช่น การทารุณกรรมทั้งทางกาย สภาพจิตใจ ทางเพศ และการใช้แรงงาน ที่ได้รับผลประโยชน์จากการทำงานของเด็ก ทำให้เด็กขาดการเรียนรู้และที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะโดยจากพ่อ มารดา หรือผู้ใดก็ตาม อีกทั้งสิทธินี้ยังคุ้มครองไปถึงเด็กที่ลี้ภัยจากอันตรายเข้ามาในประเทศของรัฐภาคี ก็ต้องได้รับการคุ้มครองด้วยเช่นเดียวกัน
  3. สิทธิในด้านพัฒนาการ(Right of Development) เด็กทุกคนตั้งแต่เกิดมา ได้จะรับสิทธิให้ได้รับความเป็นอยู่ที่เหมาะสมกับการพัฒนาทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม ตลอดจนความพึงพอใจและความสุข การมีส่วนร่วมร่วมกับคนในครอบครัว หรือของโรงเรียน และเด็กต้องได้รับการศึกษาที่ดี ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน 12 ปี ได้รับโภชนาการที่มีประโยชน์ที่เหมาะสมกับวัย ได้รับการเล่นสนุก การพักผ่อน และรับรู้ข่าวสารอย่างเช่นผู้ใหญ่
  4. สิทธิการมีส่วนร่วม(Right of Participation) เป็นสิทธิที่ให้ความสำคัญแก่เด็กเท่าเทียมกับผู้ใหญ่ คือ เด็กมีสิทธิแสดงออกทั้งด้านความคิดและการกระทำ สามารถเรียกร้องสิทธิในการปกป้องผลกระทบที่ที่อาจเกิดขึ้นกับชีวิตของตนเองได้ และให้เด็กมีส่วนร่วมให้การตัดสินใจในเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องกับตนเองโดยความคิดนั้นต้องไม่กระทบกับสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่นด้วย ในกฏหมายของเราเองก็เช่นเดียวกัน พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ได้บัญญัติหลักเกณฑ์ในการสงเคราะห์ปกป้องสวัสดิภาพและป้องกันการละเมิดสิทธิเด็กไว้หลายข้อ ตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิของเด็กตามที่กล่าวในตอนแรก

การปกป้องคุ้มครองเด็ก กฏหมายได้ทำการกำหนดหน้าที่ของผู้ปกครองและผู้ที่ญาติเอาไว้อย่างชัดเจน ผู้ใดที่ทำการฝ่าฝืนย่อมมีโทษทั้งทางปกครองและทางอาญา โดยผู้ปกครองต้องไม่กระทำการดังต่อไปนี้

  • การทอดทิ้งเด็กไว้ในสถานที่รับเลี้ยง หรือ สถานพยาบาล หรือไว้กับบุคคลที่รับจ้างเลี้ยงเด็ก หรือ ในที่สาธารณะ หรือ สถานที่ใดๆก็ตามแต่โดยมีความตั้งใจที่จะไม่รับเด็กกลับมา
  • ละทิ้งเด็กไว้ในสถานที่ใดก็ตาม โดยไม่จัดให้มีการป้องกันดูแลสวัสดิภาพ หรือ ให้การเลี้ยงดูที่เหมาะสม
  • จงใจที่จะละเลยไม่ให้สิ่งที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิต สุขอนามัยจนอาจจะทำให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจของเด็ก
  • ปฏิบัติต่อเด็กในแบบที่เป็นการขัดขวางการเจริญเติบโต หรือ พัฒนาการของเด็ก
  • ปฏิบัติต่อเด็กในลักษณะที่เป็นการเลี้ยงดูโดยมิชอบ

แนวทางการแก้ไขการละเมิดสิทธิของเด็ก คือการทำให้ครอบครัวเกิดความอบอุ่นโดยการให้ความรัก การดูแลที่ดี การปลูกฝังความคิดที่ดี จริยธรรมให้กับทุกๆคนในสังคม เพราะเด็กอยู่ในสังคมที่แตกต่างกัน การที่ตัวเด็กจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้นั้น ก็ต้องมีผู้ใหญ่ที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็กๆได้ ฉะนั้นแล้วผู้ใหญ่ควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็ก เช่น การพูดจาอ่อนโยน ใช้เหตุผลในการพูดคุย ไม่ทอดทิ้ง ไม่ใช้ความรุนแรง และพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเด็ก ให้กำลังใจเด็กที่กำลังประสบปัญหา ไม่ใช่แค่เฉพาะพ่อแม่ แต่ควรจะเป็นผู้ใหญ่ทุกคน และคนในสังคมเองก็ควรที่จะช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ โดยสามารถแจ้งเบาะแสการทารุณเด็กให้กับเจ้าหน้าที่ทราบ

หน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือเด็ก ในปัจจุบัน มีหน่วยงานยื่นมือเข้ามาช่วยอยู่มากมาย อาธิเช่น

  1. มูลนิธิคุ้มครองเด็ก จัดตั้งเพื่อให้เด็กได้รับการปกป้อง คุ้มครอง ช่วยเหลือ ฟื้นฟู และพัฒนาให้เด็กไทยที่ประสบภาวะทุกข์ยาก หรือถูกทอดทิ้งในสังคม
  2. มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก เป็นอีกหนึ่งโครงการของมูลนิธิเด็ก ที่ได้ก่อตั้งเป็นมูลนิธิศูนย์พิทักษ์เด็ก มีวัตถุประสงค์จะช่วยเหลือ ปกป้อง คุ้มครองเด็กที่ถูกละเมิดสิทธิตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 18 ปี และคุ้มครองตั้งแต่เรื่องการถูกทำร้ายร่างกาย การถูกละเมิดทางเพศ การล่อลวงบังคับให้ค้าประเวณี การใช้แรงงานอย่างไม่เป็นธรรมไม่ถูกต้อง
  3. มูลนิธิปวีณา หงสกุล เป็นมูลนิธิที่จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือเด็กและสตรีที่ด้อยโอกาส ที่ถูกสะเมิดสิทธิ ถูกทารุณในทุกรูปแบบ ไปจนถึงการช่วยฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ

และถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีกฏหมายข้อบังคับออกมาคุ้มครองเด็กมากขึ้นแล้ว แต่บุคคลสำคัญที่มีส่วนช่วยให้เด็กเติบโตขึ้นมาเป็นพลเมืองที่ดีของชาติได้นั้น มีจุดเริ่มต้นอยู่ที่ครอบครัวนะคะ



ขอบคุณบทความจาก : https://www.unicef.or.th/supportus/th

No comments:

Post a Comment