Monday, February 29, 2016

บริจาคเงิน บริจาคใจ

บริจาคเงิน

บริจาคเงิน ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอย่างไรแค่ก้าวเดินไปแถวๆปากตรอก หยอดสตางค์ใส่ลังบริจาคในเซเว่นที่มีอยู่ทุกซอยก็แค่เนี้ยสบายจะตายแต่จะมีใครเข้าใจหรือเปล่าว่าสตางค์ไปไหนหยอดแล้วเงินไปไหน  ผู้ที่ปรารถนาสตางค์มากมายที่คอยโอกาสจากฉันแค่เพียงฉันบริจาคเงิน คนรับใคร่ได้แค่ทางเลือกที่ดีฉันจะหยิบยื่นให้ แค่บริจาคเงิน กากสตางค์ เล็กๆน้อยๆนี้ก็สามารถทำคราวหน้าให้ทุกคนมานักต่อนักแล้ว เชื่อหรือเปล่าว่า สตางค์เหรียญเล็ก ๆที่ดิฉันมิใคร่ประสงค์เผื่อไว้ไว้ กับทอยให้กระยาจกริมถนน ที่ร้องเรียกมอบให้หรู ๆว่าดีฉันได้บริจาคเงินให้เขาทั้งหลายด้วยซ้ำ ก็เพราะเขาไม่อ้อนวอน กระผมให้ด้วยความเต็มใจ ขอเงิน รวยกว่าข้าหลายเท่านักเพราะกากสตางค์นี่แหละ วนิพกบางท่านแรก ๆก็ขอไปงั้น ๆ ปราศจากเช่นไรทำ หลัง ๆ มีเงินทองเก็บมากมายเข้าก็ชักเพลิน กลายเป็นขอจนเป็นนิสัยก็เพียบ ปรากฎว่าลูกอีช่างขอ แต่ที่พิลึกกึกกือกว่านั้นก็เป็นพวกที่ ไม่ขออย่างเดียวกัน แต่ให้ตั้งชื่อให้เท่ว่า บริจาค คนรุ่นเก่า ๆ อาจจะไม่รู้จักดีกับ การบริจาคอย่างนี้ ทั้งนี้เพราะแต่ก่อนไม่ค่อยจะมี ขณะนี้ใครมีลูกเต้าวัยกำลังเรียนก็จะมองเห็นการ บริจาคเงิน ดังนี้ บริจาคเงินทั้งทีจำเป็น ห้า หมื่นอัพ กับการจะเข้าเรียนโรงเรียนซักแห่ง อย่างณ เวลานี้ ในกทม.อาจเห็นภาพไม่ค่อยชัดก็เพราะว่ามีตัวเลือกสถานศึกษาแยะ แต่ในบ้านป่า มีอำเภอเมือง อำเภอเดียว นักเรียนของทั่วจังหวัดก็หมายมั่นจะมาเรียนในตัวเมือง ขบวนการ บริจาคเงิน ก็เริ่มต้นนี้ ขอช่วยบริจาคเงิน 5 หมื่น ช่วยโรงเรียน แล้วเด็กจะได้เรียนรู้ ทุกข์ระทมหรือไม่ ไม่ชำระก็ได้ แต่มิได้เรียนรู้นี่คือจริงๆ แล้วอันแสนปวดใจของผู้ปกครองที่มีลูกหัวแหลม สอบได้แต่ไม่มีลู่ทางร่ำเรียนโดยไม่รู้จักคำว่า บริจาคเงิน

 บริจาคเงิน

บริจาคเงิน

บริจาคเงิน หากจะพูดไปแล้ว เมืองไทยของผมก็ติดอันดับในเรื่องราวการบริจาคเงินกับเขาด้วย เปรียบเทียบชั้นคนมีสตางค์แถวหน้าก็ว่าได้ถ้าหากเอาเรื่อง บริจาคเงินมาเป็นตัววัด ปี สองพันสิบสี่  ดีฉันติดอันดับ  3 กรณีบริจาคเงินเลยทีเดียว เพราะคนไทยขี้กังวล พร้อมทั้งการบริจาคเงิน มีผลสำรวจหามาแล้วว่าเป็นแนวทางที่สบายสุด ๆ ที่คนข้าจะบริจาคกัน อย่างช่วงนี้ที่มีข่าวออกทีวี ชาวไทยนี้ดี บริจาคให้วัดซะมากหลาย จนคนร้ายมาจี้ ตู้บริจาคไปแล้วถึง 8ใบ ในเวลานี้ก็ต้องรับบริจาคกล่องรับเสียสละไปพลาง ๆการ บริจาคเงิน ในเรือนข้าพเจ้านิยมสละให้กับสถานสงเคราะห์ต่าง ๆ ด้วยจะเน้นการบริจาคเงิน ให้เพื่อทะนุถนอมเด็กกำพร้า การบริจาคเงิน เพื่อให้เป็นทุนการศึกษาผู้เยาว์ พร้อมด้วยถ้าเป็นเวลาที่มีปมปัญหาเรื่องภยันตรายต่าง ๆเช่นปี ห้าสิบสี่ ที่มีน้ำหลากหรือปี สี่สิบหก ที่เกิด คลื่นยักษ์ คนไทยก็มีการ บริจาคเงิน กันอย่างเหลือล้น ส่วนสิทธิประโยชน์ที่ได้ถ้ามีการบริจาค อย่างคนที่บริจาคอย่างอื่นที่ไม่ใช่ตัวสตางค์ สำหรับบางท่านก็ไม่เป็นที่นิยม บริจาคเงิน แต่ จะบริจาคของใช้เครื่องใช้ทดแทน หรือ บริจาคเลือด บริจาคเกร็ดเลือดที่สามารถทำได้ทุกเดือน หรือถ้าใครข้าวของเครื่องใช้ที่ที่อยู่เพียบก็สามารถพาไปบริจาคได้ กับใครพร้อมที่จะเสียสละสังขาร แขนขา ดวงตา ก็อาจทำได้หากไม่ต้องการบริจาคเงิน การบริจาคเงิน ตรงนั้นทันทีมีการกำหนดเป้าประสงค์ชัดเจน อาทิ  บริจาคเงิน เพื่อให้ไถ่ชีวิตวัวควาย บริจาคเงิน เพื่อ เลี้ยงดูน้ำหลาก อันนี้จะเป็นเหตุให้ดิฉันรู้ว่าเงินตราดีฉันไปที่ไหนบ้าง อย่างที่วัด การบริจาคเงิน บางอาราม สละ 10 บาท ยี่สิบ บาท ก็มีการขึ้นนาม แจ้งไว้ว่าใครบริจาคบ้าง ส่วนการใช้ประโยชน์ก็ต้องสุดแต่วัดวาอารามว่าจะใช้ประโยชน์ทำอย่างไร

บริจาคเงิน

บริจาคเงิน

การบริจาคเงิน กับ การทำทานปัจจุบันนี้ หากจะทำก็ต้องเลือกทำให้ดี ให้ตรงจุด ดังเช่น การซื้อนก ปลา เพื่อชี้บอกไปยอม หากมีความตั้งใจดีก็อย่าไปซื้อหา นกปลาที่เขามีการจัดไว้ มันก็คล้ายไปส่งเสริมให้เขา ไปจับ ไปล่อมาค้าขาย กับนกที่เราปล่อย ๆ ไป มันก็เปลี่ยนมาที่เดิม ก็นกมันปรากฏแต่ในกรงไม่รู้จะไปไหน หรือการ บริจาคเงิน ให้เด็กวณิพก กับคนกระยาจกต่าง ๆ ยิ่งให้ก็ประดุจดังเป็นการอุดหนุนให้มีขอเงินอยู่ถัดจาก ลองข้าพเจ้าไม่ให้ ไม่ส่งเสริม เขาก็เลิกขอกันไปเอง การบริจาคเงินชั่วครู่นี้ ดูจะเป็นเรื่องทั่วๆ ไป ไปแล้วสำหรับคนทั่ว ๆไป เพราะแค่คิดว่าหยอดไป ไม่กี่เงิน ไม่ต้องคิดเช่นไรมาก อย่างเช่น ตู้ที่ตั้งอยู่ในร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ หรือในห้างสรรพสินค้าที่ จ่ายสตางค์ค่าของใช้เสร็จปั๊บ ก็เจอตู้บริจาค เราก็ทำจนเป็นความชาชินที่ต้องหยอด โดยไม่รู้เรื่องว่าเงินตรานั้นเอาไปทำกระไร เอาไปไหน  หรือการบริจาคเงินกับสื่อต่าง ๆ ที่มีการโหนกระแสต่าง ๆ ให้ดิฉัน บริจาคเงินกัน เมื่อก่อนจะมีการเชิญชวนบุคคลบริจาคเงินโดยมีการขับลำ คนก็ติดต่อเข้าไปสละเยอะแยะ ถ้าหากใครมีใจที่ทบทวนดูจะบริจาคจริง ๆ ก็พิจารณากันสักนิดก่อนได้คิดที่จะหยอดเงิน หรือโอนสตางค์ให้ใคร ถ้าหากคิดว่าใช่ ก็เสียสละไปเถอะ อย่างน้อย ๆ ก็ทำให้เพลิดเพลินใจ เงินตราจะไปไหนก็ค่อยมาว่ากัน

บริจาคเงินแล้ว ยกเว้นได้ความแจ่มใส หากใครบริจาคบ่อย ๆ ก็ลองดูกรณีการลดภาษีอากรไว้บ้าง คนกินค่าแรงที่ค่าแรง 2 3 หมื่นทางบ.ของเรามีการหักเงินได้ส่งภาษีอากรไปทั้งปวงเดือนหากผม มิได้นำเงินตราที่ผมเสียสละ ไปทั่วเดือนมาหักลดหย่อนภาษีอากร สมมุติ ค่าจ้างรายเดือน 25,000 รวมยอดเงินปันผล อีกประมาณ 8 9หมื่น รวมแล้วจ่ายเงินภาษีไป ใกล้ หกพัน ถ้าค้ำชูลูกเต้า คุณพ่อ มารดาด้วย พร้อมทั้ง ใช้สิทธิลดหย่อนจากการบริจาคเงินมาคลุกด้วย ก็จะได้กลับภาษีชัวร์ หากข้าเสียสละให้โรงเรียนตามที่สรรพากรเขียนไว้ มากหลายแห่งก็จะนำมาหักลดหย่อนได้ถึง สองเท่าของยอดเงินเสียสละ แต่เช่นนี้ต้องดูรายชื่อจากภาษีอากรพร้อมกันไปกับเพื่อให้จะได้ใช้สิทธิให้สุดโต่ง

บริจาคเงิน กระผมจะบริจาคที่ไหน ตอนไหน หรือให้ใครก็ได้เป็นสตางค์ของเรา สิทธิ์ของเราที่จะ บริจาคเงิน แต่ ทดลองนิดนึงว่า เขาเอาไปทำสิ่งไร ที่ใด ให้กับใคร น่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน อย่าเพียง หย่อน ใส่ตู้ มิได้ดูตาม้าตาเรือ ทำแล้วก็ให้ดีนิด ถ้าข้าครุ่นคิด จะ บริจาคเงิน



ขอบคุณบทความจาก : https://www.unicef.or.th/supportus/th/campaign/Earthquake_Nepal_th

No comments:

Post a Comment