Wednesday, February 24, 2016

บริจาคเงิน บริจาคใจ

บริจาคเงิน

บริจาคเงิน หามิได้เรื่องลำบากลำบนสิ่งไรแค่ไปไปย่านปากซอย หยอดสตางค์ใส่กล่องบริจาคในเซเว่นที่ประกอบด้วยอยู่ทุกซอยก็แค่เนี้ยสะดวกจะตายแต่จะมีใครรู้หรือเปล่าว่าเงินตราไปไหนหยอดแล้วเงินตราไปไหน  ผู้ที่ใคร่ได้เงินตราเหลือล้นที่รอโอกาสจากดิฉันแค่เพียงเราบริจาคเงิน คนรับปรารถนาแค่โอกาสที่ข้าพเจ้าจะหยิบยื่นให้ แค่บริจาคเงิน เศษเงินตรา เล็กๆน้อยๆนี้ก็อาจจะทำหนหน้าให้ใครๆมานักต่อนักแล้ว เชื่อหรือเปล่าว่า สตางค์เหรียญเล็ก ๆที่ข้าพเจ้าไม่ใคร่ปรารถนาสะสมไว้ และเขวี้ยงให้วณิพกข้างถนน ที่ขนานนามให้หรู ๆว่าข้าพเจ้าได้บริจาคเงินให้พวกเขาด้วยซ้ำ ก็ทั้งนี้เพราะเขามิได้ร่ำขอ ผมให้ด้วยความสมัครใจ กระยาจก มีเงินมีทองกว่าข้าพเจ้าหลายเท่านักเพราะกากสตางค์นี่แหละ ยาจกบางคนแรก ๆก็ขอไปงั้น ๆ ไม่มีเช่นไรทำ หลัง ๆ มีสตางค์เก็บมากเข้าก็ชักเพลิดเพลินใจ กลายเป็นร้องขอจนเป็นอุปนิสัยก็เยอะ ปรากฎว่าลูกอีช่างขอ แต่ที่แปลกประหลาดกว่านั้นก็เป็นพวกที่ ไม่ขอเหมือนกัน แต่ให้ตั้งชื่อให้โก้เก๋ว่า บริจาค คนรุ่นเก่า ๆ อาจจะไม่ชินหูชินตากับ การบริจาคยังงี้ เพราะด้วยแต่ก่อนไม่ค่อยจะมี ช่วงนี้ใครมีลูกเต้าวัยกำลังเรียนรู้ก็จะมองเห็นการ บริจาคเงิน แบบนี้ บริจาคเงินทั้งทีจำต้อง 5 หมื่นอัพ กับการจะเข้าชั้นเรียนสถานที่เรียนซักแห่ง อย่างเดี๋ยวนี้ ในบางกอกอาจเห็นภาพไม่ค่อยชัดเพราะว่ามีตัวเลือกโรงเรียนเกลื่อนกลาด แต่ในต่างจังหวัด มีอำเภอเมือง อำเภอเดียว นักเรียนของทั่วจังหวัดก็มุ่งหวังจะมาเรียนในตัวเมือง วิธีการ บริจาคเงิน ก็เริ่มต้นนี้ ขอช่วยบริจาคเงิน ห้า หมื่น ช่วยโรงเรียน แล้วเด็กจะได้ร่ำเรียน ทุกข์ทรมานหรือเปล่า ไม่จ่ายก็ได้ แต่ไม่ได้ศึกษาเล่าเรียนนี่คือเรื่องจริงอันแสนเจ็บปวดของผู้ปกครองที่มีลูกเต้าหัวไว สอบได้แต่ไร้หนทางเรียนก็เพราะว่าไม่คุ้นเคยคำว่า บริจาคเงิน

 บริจาคเงิน

บริจาคเงิน

บริจาคเงิน แม้จะกล่าวไปแล้ว ไทยของข้าก็ติดอันดับในเรื่องการบริจาคเงินกับเขาเช่นกัน เทียบชั้นคนมั่งมีแถวหน้าก็ว่าได้หากเอาเรื่อง บริจาคเงินมาเป็นตัววัด ปี สองพันสิบสี่  เราติดอันดับ  3 เรื่องบริจาคเงินเลยทีเดียว สำหรับคนไทยขี้เวทนา พร้อมทั้งการบริจาคเงิน มีผลสำรวจหามาแล้วว่าเป็นวิธีที่ไม่ยากสุด ๆ ที่คนกระผมจะบริจาคกัน อย่างเดี๋ยวนี้ที่มีข่าวออกทีวี คนไทยนี้ดี บริจาคให้วัดซะเพียบ จนมิจฉาชีพมาชิง ตู้บริจาคไปแล้วถึง แปดใบ ระยะนี้ก็ต้องรับสละกล่องรับเสียสละไปพลาง ๆการ บริจาคเงิน ในที่อยู่อาศัยดีฉันเป็นที่นิยมสละให้กับสมาคมต่าง ๆ ด้วยจะมุ่งเน้นการบริจาคเงิน ให้สำหรับอนุเคราะห์ลูกกำพร้า การบริจาคเงิน สำหรับเป็นทุนการศึกษาเด็ก และถ้าหากเป็นเวลาที่มีปัญหากรณีความฉิบหายต่าง ๆเช่นปี ห้าสิบสี่ ที่มีอุทกภัยหรือปี 46 ที่เกิด สึนามิ ชาวไทยก็มีการ บริจาคเงิน กันอย่างล้นหลาม ส่วนสิทธิคุณประโยชน์ที่ได้แม้มีการให้ อย่างคนที่สละอย่างอื่นที่มิใช่ตัวเงินตรา เพราะว่าบางคนก็ไม่เป็นที่นิยม บริจาคเงิน แต่ จะบริจาคสิ่งของเครื่องใช้แทน หรือ สละเลือด บริจาคเกร็ดเลือดที่อาจจะทำได้ทุกเดือน กับถ้าใครสิ่งของที่ที่พักอาศัยเยอะแยะก็อาจจะชี้ทางสละได้ กับใครกับที่จะเสียสละร่างกายและจิตใจ แขนขา ดวงตา ก็อาจจะทำได้หากไม่ประสงค์บริจาคเงิน การบริจาคเงิน ตรงนั้นขณะนี้มีการกำหนดเป้าหมายชัดเจน อาทิเช่น  บริจาคเงิน สำหรับไถ่ชีวีโคควาย บริจาคเงิน สำหรับ ค้ำจุนอุทกภัย สิ่งนี้จะทำให้ดีฉันรู้ว่าเงินตราเราไปที่ใดบ้าง อย่างที่วัด การบริจาคเงิน บางอาราม บริจาค 10 บาท ยี่สิบ บาท ก็มีการขึ้นชื่อเสียงเรียงนาม แจ้งไว้ว่าใครเสียสละบ้าง ส่วนการนำไปใช้ก็ต้องสุดแล้วแต่วัดวาอารามว่าจะนำไปใช้ดำเนินงานสิ่งไร

บริจาคเงิน

บริจาคเงิน

การบริจาคเงิน หรือ การบริจาคทานปัจจุบันนี้ หากจะทำก็ต้องคัดเลือกทำให้ดี ให้ตรงจุด อาทิ การซื้อนก ปลา เพื่อหยิบยกไปยอม หากมีหมายใจดีก็อย่าไปจ่ายเงิน นกปลาที่เขามีการเตรียมตัวไว้ มันก็ยังกะไปสนับสนุนให้เขา ไปจับ ไปล่อมาค้า กับนกที่ดีฉันปล่อย ๆ ไป มันก็แต่กลับมาที่เดิม ก็นกมันมีอยู่แต่ในกรงไม่รู้จะไปไหน กับการ บริจาคเงิน ให้เด็กคนขอทาน หรือคนวนิพกต่าง ๆ ยิ่งให้ก็คล้ายเป็นการเลี้ยงดูให้มีขอทานอยู่รองลงไป ลองดิฉันไม่ให้ ไม่ส่งเสริม เขาก็เลิกขอกันไปเอง การบริจาคเงินชั่วขณะหนึ่งนี้ ดูจะเป็นเรื่องปกติ ไปแล้วสำหรับคนทั่ว ๆไป เพราะแค่คิดว่าหยอดไป ไม่กี่ตังค์ ไม่ต้องคิดเช่นไรมาก เช่น ตู้ที่ตั้งอยู่ในร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ หรือในห้างที่ ชำระเงินค่าของใช้เสร็จปั๊บ ก็เจอตู้เสียสละ ผมก็ทำจนเป็นความคุ้นชินที่ต้องหยอด โดยไม่รู้ว่าเงินนั้นเอาไปทำเช่นไร เอาไปไหน  กับการบริจาคเงินกับพาหะต่าง ๆ ที่มีการโหนกระแสต่าง ๆ ให้เรา บริจาคเงินกัน เมื่อก่อนจะมีการเชิญคนบริจาคเงินโดยมีการขับกล่อม คนก็โทรเข้าไปบริจาคหลากหลาย ถ้าใครมีใจที่ทบทวนดูจะเสียสละจริง ๆ ก็คิดหน้าคิดหลังกันสักนิดก่อนครุ่นคิดที่จะหยอดเงินตรา กับโอนเงินตราให้ใคร ถ้าคิดว่าใช่ ก็เสียสละไปเถอะ อย่างน้อย ๆ ก็ทำให้ภูมิใจ เงินตราจะไปไหนก็ค่อยมาว่ากัน

บริจาคเงินแล้ว เว้นเสียแต่ได้ความสบายใจ หากใครเสียสละบ่อย ๆ ก็ลองดูกรณีการลดภาษีอากรไว้บ้าง คนกินเงินเดือนที่ค่าจ้างรายเดือน สอง สาม หมื่นทางบ.ของเรามีการหักเงินตราได้ส่งภาษีไปตลอดเดือนหากฉัน ไม่ได้นำเงินที่ดีฉันเสียสละ ไปตลอดเดือนมาหักลดเงินภาษี สมมต ค่าจ้างรายเดือน 25,000 รวมเบ็ดเสร็จโบนัส อีกประมาณ แปด 9หมื่น รวมทั้งสิ้นแล้วจ่ายเงินภาษีไป เกือบ หกพัน ถ้าอุปถัมภ์บุตร บิดา แม่ด้วย พร้อมด้วย ใช้สิทธิ์ลดหย่อนจากการบริจาคเงินมาร่วมด้วย ก็จะได้คืนภาษีอากรแม่นมั่น หากฉันเสียสละให้สถานที่เรียนตามที่ภาษีบังคับ มากแห่งก็จะนำรับมาหักลดได้ถึง 2เท่าของยอดสตางค์บริจาค แต่ทั้งนี้ต้องดูรายนามจากสรรพากรพร้อมกันไปด้วยเพื่อให้จะได้ใช้สิทธิ์ให้เต็มกอบเต็มกำ

บริจาคเงิน ฉันจะเสียสละที่ไหน เมื่อไร กับให้ใครก็ได้เป็นเงินตราของข้า สิทธิของฉันที่จะ บริจาคเงิน แต่ ลองนิดนึงว่า เขาเอาไปทำเช่นไร ที่ไหน ให้พร้อมทั้งใคร น่าเลื่อมใสมากน้อยแค่ไหน อย่าแค่ โยน ใส่ตู้ ไม่ดูตาม้าตาเรือ ทำแล้วก็ให้ดีนิด ถ้าข้าพเจ้าทบทวนดู จะ บริจาคเงิน



ที่มา : https://www.unicef.or.th/supportus/th/campaign/Earthquake_Nepal_th

No comments:

Post a Comment