Monday, March 14, 2016

บริจาคเงิน บริจาคใจ

บริจาคเงิน

บริจาคเงิน มิใช่เรื่องยากลำบากอย่างไรแค่ก้าวเดินไปแถวๆปากตรอก หยอดเงินตราใส่กล่องบริจาคในเซเว่นที่มีอยู่ทุกซอยก็แค่เนี้ยไม่ยากจะตายแต่จะมีใครเข้าใจหรือเปล่าว่าสตางค์ไปไหนหยอดแล้วเงินตราไปไหน  ผู้ที่พึงปรารถนาเงินตรามากมายที่รอโอกาสจากดีฉันเพียงแค่เราบริจาคเงิน ผู้รับมุ่งหมายแค่ทางเลือกที่กระผมจะหยิบยื่นให้ แค่บริจาคเงิน เศษเงิน เล็กๆน้อยๆนี้ก็อาจทำอนาคตให้ทุกคนมานักต่อนักแล้ว เชื่อหรือเปล่าว่า เงินตราเหรียญเล็ก ๆที่ผมมิใคร่ปรารถนาเก็บไว้ พร้อมด้วยโยนให้ขอเงินริมถนน ที่ร้องเรียกให้หรู ๆว่ากระผมได้บริจาคเงินให้พวกเขาทั้งหลายด้วยซ้ำ ก็เนื่องจากเขาไม่บิณฑบาต ดีฉันให้ด้วยความเต็มใจ ยาจก มั่งมีกว่าดิฉันหลายเท่านักเพราะกากเงินนี่ล่ะ คนขอทานบางท่านแรก ๆก็ขอไปงั้น ๆ ไร้อะไรทำ หลัง ๆ มีเงินเก็บมากมายเข้าก็ชักเพลิดเพลิน กลายเป็นร้องขอจนเป็นนิสัยก็มากหลาย พูดว่าลูกอีช่างขอ แต่ที่แปลกกว่านั้นก็เป็นพวกที่ ไม่ขอเช่นกัน แต่ให้ร้องเรียกให้สง่าว่า บริจาค คนรุ่นเก่า ๆ อาจจะไม่ชินตากับ การบริจาคยังงี้ เนื่องจากเมื่อก่อนนี้ไม่ค่อยจะมี ช่วงนี้ใครมีเด็กวัยกำลังเรียนก็จะเห็นการ บริจาคเงิน เช่นนี้ บริจาคเงินทั้งทีจำเป็นจะต้อง 5 หมื่นอัพ กับการจะเข้าชั้นเรียนโรงเรียนซักแห่ง อย่างเวลานี้ ในกทม.อาจเห็นภาพไม่ค่อยชัดเพราะด้วยมีตัวเลือกโรงเรียนมากมาย แต่ในชานเมือง มีอำเภอเมือง อำเภอเดียว เด็กนักเรียนจากทั่วจังหวัดก็คาดหมายจะมาเรียนรู้ในตัวเมือง กระบวนการ บริจาคเงิน ก็เริ่มต้นนี้ ขอสนับสนุนบริจาคเงิน ห้า หมื่น ช่วยโรงเรียน แล้วผู้เยาว์จะได้เรียนรู้ เจ็บร้าวหรือเปล่า ไม่จ่ายก็ได้ แต่ไม่ได้ศึกษานี่คือจริงๆ แล้วอันแสนปวดใจของผู้ดูแลที่มีลูกเต้าไหวพริบดี สอบได้แต่ไร้หนทางศึกษาทั้งนี้เพราะไม่รู้จักคำว่า บริจาคเงิน

 บริจาคเงิน

บริจาคเงิน

บริจาคเงิน ถ้าหากจะบอกไปแล้ว เมืองไทยของฉันก็ติดอันดับในเรื่องการบริจาคเงินกับเขาด้วย เปรียบเทียบชั้นคนมั่งคั่งแถวหน้าก็ว่าได้ถ้าเอาเรื่อง บริจาคเงินมาเป็นตัววัด ปี สองพันสิบสี่  ฉันติดอันดับ  สาม กรณีบริจาคเงินเลยทีเดียว เพราะว่าคนไทยขี้สมเพชเวทนา กับการบริจาคเงิน มีผลตรวจหามาแล้วว่าเป็นแนวทางที่ง่ายๆสุด ๆ ที่คนฉันจะเสียสละกัน อย่างตอนนี้ที่มีข่าวออกทีวี คนไทยนี้ดี สละให้อารามซะเพียบ จนผู้ร้ายมาปล้น ตู้บริจาคไปแล้วถึง แปดใบ ตอนนี้ก็ต้องรับสละกล่องรับสละไปพลาง ๆการ บริจาคเงิน ในอาคารบ้านเรือนดีฉันเป็นที่นิยมสละให้กับมูลนิธิต่าง ๆ โดยจะเน้นหนักการบริจาคเงิน ส่งให้สำหรับเลี้ยงดูลูกกำพร้า การบริจาคเงิน เพื่อให้เป็นทุนเล่าเรียนเด็ก กับแม้เป็นคราวที่มีปมปัญหากรณีพิบัติต่าง ๆเช่นปี ห้าสิบสี่ ที่มีน้ำท่วมหรือปี 46 ที่เกิด ซึนามิ ชาวไทยก็มีการ บริจาคเงิน กันอย่างเหลือเฟือ ส่วนสิทธิคุณค่าที่ได้แม้มีการบริจาค อย่างคนที่สละอย่างอื่นที่หามิได้ตัวเงิน ด้วยบางท่านก็ไม่เป็นที่นิยม บริจาคเงิน แต่ จะเสียสละสิ่งของเครื่องใช้เครื่องใช้แทน หรือ สละเลือด สละเกร็ดเลือดที่อาจจะทำได้ทุกเดือน หรือถ้าหากใครสิ่งของที่เรือนมากก็อาจจะพาไปเสียสละได้ หรือใครกับที่จะเสียสละร่างกาย แขนขา ดวงตา ก็อาจทำได้หากไม่ปรารถนาบริจาคเงิน การบริจาคเงิน นั้นหมู่นี้มีการกำหนดจุดหมายชัดเจน เช่นว่า  บริจาคเงิน สำหรับไถ่ชีวิตวัวควาย บริจาคเงิน เพื่อ สงเคราะห์อุทกภัย สิ่งนี้จะทำเอาข้าพเจ้ารู้ว่าสตางค์ฉันไปที่ไหนบ้าง อย่างที่อาราม การบริจาคเงิน บางวัดวาอาราม เสียสละ 10 บาท ยี่สิบ บาท ก็มีการขึ้นชื่อเสียงเรียงนาม แจ้งไว้ว่าใครบริจาคบ้าง ส่วนการใช้ประโยชน์ก็ต้องสุดแท้แต่อารามว่าจะนำไปใช้ดำเนินงานเช่นไร

บริจาคเงิน

บริจาคเงิน

การบริจาคเงิน กับ การบริจาคทานปัจจุบันนี้ หากจะทำก็ต้องคัดเลือกทำให้ดี ให้ตรงจุด เช่น การซื้อนก ปลา เพื่อยกมาไปปล่อย หากมีความจงใจดีก็อย่าไปจับจ่าย นกปลาที่เขามีการเตรียมการไว้ มันก็เหมือนกับไปส่งเสริมให้เขา ไปจับ ไปล่อมาขาย หรือนกที่ข้าปล่อย ๆ ไป มันก็แต่มาที่เดิม ก็นกมันอยู่แต่ในกรงไม่รู้เรื่องจะไปไหน กับการ บริจาคเงิน ให้เด็กกระยาจก กับคนวณิพกต่าง ๆ ยิ่งให้ก็เหมือนเป็นการสงเคราะห์ให้มีวณิพกอยู่ต่อไป ลองผมไม่ให้ ไม่สนับสนุน เขาก็เลิกขอกันไปเอง การบริจาคเงินชั่วระยะหนึ่งนี้ ดูจะเป็นกรณีพื้นๆ ไปแล้วสำหรับคนทั่ว ๆไป เพราะแค่คิดว่าหยอดไป ไม่กี่เงิน ไม่ต้องคิดเช่นไรมาก อย่างเช่น ตู้ที่ตั้งอยู่ในร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ กับในห้างสรรพสินค้าที่ ชำระเงินค่าของใช้เสร็จปั๊บ ก็เจอตู้บริจาค เราก็ทำจนเป็นความชินที่ต้องหยอด โดยไม่รู้เรื่องว่าสตางค์นั้นเอาไปทำกระไร เอาไปไหน  กับการบริจาคเงินกับสื่อต่าง ๆ ที่มีการโหนแนวทางต่าง ๆ ให้ดิฉัน บริจาคเงินกัน เมื่อก่อนจะมีการชักชวนบุคคลบริจาคเงินด้วยมีการจำเรียง คนก็โทรศัพท์เข้าไปสละมาก ถ้าหากใครมีความคิดที่ได้คิดจะสละจริง ๆ ก็กลั่นกรองกันสักนิดก่อนครุ่นคิดที่จะหยอดสตางค์ กับโอนเงินให้ใคร ถ้าคิดว่าใช่ ก็เสียสละไปเถอะ อย่างน้อย ๆ ก็ทำให้สบายใจ สตางค์จะไปใดก็ค่อยมาว่ากัน

บริจาคเงินแล้ว เว้นแต่ได้ความสุขใจ หากใครเสียสละบ่อย ๆ ก็ลองดูกรณีการลดภาษีอากรไว้บ้าง คนกินเงินเดือนที่ค่าแรง สอง 3 หมื่นทางบ.ของฉันมีการหักสตางค์ได้ส่งภาษีไปทุกเดือนหากข้า มิได้นำเงินตราที่ข้าบริจาค ไปทุกเดือนมาหักลดหย่อนภาษีอากร ถือเอาว่า ค่าตอบแทนรายเดือน 25,000 รวมทั้งสิ้นโบนัส อีกประมาณ แปด เก้าหมื่น รวมยอดแล้วชำระภาษีไป เฉียด หกพัน ถ้าช่วยเหลือลูกชายลูกสาว บิดา มารดาด้วย พร้อมทั้ง ใช้สิทธิ์ลดหย่อนจากการบริจาคเงินมารวมด้วย ก็จะได้กลับภาษีอากรเป็นแน่ หากผมสละให้โรงเรียนตามที่สรรพากรกะเกณฑ์ มากหลายแห่งก็จะนำมาหักลดหย่อนได้ถึง สองเท่าของยอดเงินตราเสียสละ แต่ดังนี้ต้องดูสารบาญจากภาษีควบคู่ไปกับสำหรับจะได้ใช้สิทธิ์ให้เต็มขนาด

บริจาคเงิน กระผมจะเสียสละที่ใด เมื่อไหร่ กับให้ใครก็ได้เป็นสตางค์ของข้า สิทธิของดิฉันที่จะ บริจาคเงิน แต่ ลองดูนิดนึงว่า เขาเอาไปทำสิ่งไร ที่ใด ให้พร้อมใคร น่าเชื่อมากน้อยแค่ไหน อย่าแค่ โยน ใส่ตู้ ไม่ดูตาม้าตาเรือ ทำแล้วก็ให้ดีนิด แม้ฉันนึก จะ บริจาคเงิน



เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : https://www.unicef.or.th/supportus/th/campaign/Earthquake_Nepal_th

No comments:

Post a Comment