Thursday, March 10, 2016

มนุษย์ค่าจ้างรายเดือนลดหย่อนภาษีอะไรได้บ้าง

ลดหย่อนภาษี

ตามกฎหมายแล้ว บุคคลที่มีรายได้ทั่วๆไปมีหน้าที่ที่ต้องเสียภาษีบุคคลธรรมดาตามที่ข้อบังคับบัญญัติ  เพื่อที่รัฐบาลจะได้นำเงินส่วนนี้มาใช้ในการบริหารและปฏิรูปประเทศ เชื่อว่าหลายๆคนคงกำลังมองหาวิธีผ่อนปรนภาษีเพื่อที่จะได้ไม่ต้องจ่ายเงินส่วนนี้ครบ ก่อนที่จะทำการลดหย่อนภาษีเราต้องมาศึกษาก่อนว่าสิทธิในการลดหย่อนภาษีนั้นมีอะไรบ้าง

ในทุกๆปีจะมีการคิดเลขรายได้ทั้งปีและภาษีที่แต่ละบุคคลนั้นต้องจ่าย อัตราภาษีจะมากหรือน้อยนั้นขึ้นกับเงินได้สุทธิของแต่ละบุคคลในแต่ละปี ซึ่งอัตราภาษีนั้นเราสามารถทำการผ่อนปรนได้ สิทธิในการลดหย่อนภาษีนั้นก็มีให้เลือกหลายประเภท ได้แก่

 

 ลดหย่อนภาษี

ลดหย่อนภาษี

ค่าผ่อนปรนเฉพาะบุคคล

สามารถผ่อนปรนได้เต็มจำนวน 30,000 บาท สำหรับผู้ที่มีรายได้ทุกคนสามารถใช้สิทธินี้ได้เต็มๆ โดยไม่มีข้อแม้ใดๆ

ค่าลดหย่อนคู่ครอง

กรณีที่คู่สมรสที่ไม่มีเงินได้ หรือเลือกยื่นแบบแสดงรายการรวมกัน จะได้สิทธิลดหย่อนเพิ่มอีกจำนวน 30,000 บาท โดยมีข้อแม้คือ คู่สมรสต้องมีการจดทะเบียนสมรสที่ถูกต้องตามนิติ หรือคู่สมรสต้องไม่มีเงินได้ระหว่างปี

ค่าลดหย่อนบุตร และค่าลดหย่อนการเล่าเรียนบุตร

บุตรตามกฎหมายหรือลูกเลี้ยงสามารถลดหย่อนได้คนละ 15,000 บาท ใช้หักสูงสุดได้ไม่เกิน 3 คน โดยลูกต้องมีอายุไม่เกิน 20 ปี แต่ถ้าอายุระหว่าง 20 - 25 ปี ต้องเรียนในระดับ ปวส. ขึ้นไป สำหรับบุตรที่กำลังศึกษาเล่าเรียนภายในประเทศจะได้ค่าลดหย่อนเพิ่มอีกคนละ 2,000 บาท โดยระดับการศึกษาจะหมายถึงชั้นอนุบาลจนถึงปริญญาเอก และบุตรต้องไม่มีเงินได้ในปีภาษีนั้นๆเกิน 15,000 บาท จึงจะสามารถทำการผ่อนปรนได้

ค่าเลี้ยงชีพบิดามารดา

สำหรับผู้มีเงินได้ที่มีพ่อแม่อายุตั้งแต่ 60 ปีเป็นต้นไป และมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 30,000 บาท โดยผู้มีเงินได้ที่จะใช้สิทธินี้ต้องเป็นลูกที่แท้จริง หรือลูกเลี้ยงที่ถูกต้องตามนิติ โดยสามารถหักผ่อนปรนได้คนละ 30,000 บาท แต่ถ้าพ่อแม่มีบุตรหลายคน สามารถใช้สิทธินี้ได้กับบุตรแค่เพียงผู้เดียวเท่านั้น ไม่สามารถใช้สิทธิทับกันกันได้

ค่าประกันลูกกตัญญู

ผู้มีเงินได้ที่ซื้อ “ประกันลูกกตัญญูกตเวที” ซึ่งเป็นประกันสุขภาพอนามัยให้กับพ่อแม่ สามารถนำเบี้ยประกันส่วนนี้มาหักผ่อนปรนภาษีได้ไม่เกิน 15,000 บาท โดยที่บิดามารดาต้องมีอายุไม่ถึง 60 ปี และมีเงินได้ต่อปีไม่เกิน 30,000 บาท

ค่าอุปการะอุปถัมภ์ผู้ทุพพลภาพ

สำหรับคนที่ต้องเลี้ยงดูผู้ทุพพลภาพ ที่มีรายได้ปีละไม่เกิน  30,000 บาท สามารถนำลดหย่อนภาษีได้คนละ 60,000 บาท โดยผู้อุปการะและผู้พิการไม่จำเป็นต้องเป็นญาติพี่น้องกันก็ได้ แต่ผู้ทุพพลภาพต้องมีบัตรคนพิการรับประกันตามกฎหมายและผู้อุปการะต้องอยู่ในรายชื่อผู้ปกครองในบัตรผู้พิการนั้นด้วย จึงจะสามารถทำการผ่อนปรนได้

เงินช่วยเหลือสาธารณกุศล

สามารถนำมาลดหย่อนได้เท่ากับจำนวนรวมที่จ่ายจริง ยิ่งถ้าเป็นการให้เงินเพื่อการศึกษาเล่าเรียนแล้ว สามารถนำมาหักผ่อนปรนได้ถึง 2 เท่า ของจำนวนที่จ่ายจริง แต่ต้องไม่เกิน 10% ของเงินยังเหลือจากการหักค่าลดหย่อนอื่นๆและค่าใช้จ่ายแล้ว

เงินทุนสำรองดำรงชีพ

เป็นเงินที่คนงานและผู้ว่าจ้างตกลงสะสมร่วมกัน โดยลูกจ้างจะจ่ายเงินที่เรียกว่าเงินสะสม และนายจ้างจะจ่ายเงินช่วยเหลือให้ลูกจ้างอีกในทุกๆเดือนรวมกัน บริษัทจะดำเนินงานเงินส่วนนี้โดยการนำไปลงทุนเพื่อให้เกิดผลกำไร และจะใช้คืนให้กับลูกจ้างเมื่อลาออกหรือเกษียณ เงินส่วนนี้สามารถนำไปผ่อนปรนภาษีได้เท่ากับจำนวนที่จ่ายจริงรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท

กองทุน RMF

เป็นเงินกองทุนรวมเพื่อการครองชีพ สนับสนุนการอดออมเงินระยะยาวเพื่อวัยเกษียณ สามารถนำไปลดหย่อนภาษีตามที่จ่ายจริงได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้ สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท

กองทุน LTF

เป็นเงินทุนรวมหุ้นระยะยาว เพื่อส่งเสริมการลงทุนระยะยาวในหุ้นจดทะเบียน สามารถนำไปลดหย่อนภาษีตามที่จ่ายจริงได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้ สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท

ประกันเบี้ยบำนาญ

สามารถนำเบี้ยประกันมาลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับเงินค่าซื้อหาหน่วยลงทุนรวมเพื่อการดำรงชีพ และเงินออมเข้ากองเงินสำรองครองชีพหรือกองค่าบำเหน็จบำนาญราชการ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท และประกันเบี้ยบำนาญที่นำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้ ต้องมีช่วงเวลาในการคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีเป็นต้นไป

ประกันชีวิต

นำมาลดหย่อนภาษีตามที่จ่ายจริงได้ไม่เกิน 100,000 บาท โดยสัญญาประกันชีวิตต้องมีช่วงเวลาในการคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีเป็นต้นไป ในกรณีที่ไม่มีรายได้สามารถใช้ลดหย่อนได้เพียง 10,000 บาทเท่านั้น

ดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้าน

สำหรับผู้ที่มีภาระหน้าที่ในการผ่อนบ้านหรือบ้านพักอาศัย สามารถนำดอกเบี้ยจากการกู้เงินไปผ่อนปรนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงไม่เกิน 100,000 บาท ในกรณีที่มีผู้กู้ร่วมหลายคน สามารถนำไปผ่อนปรนภาษีได้ทุกคนแต่ต้องรวมกันแล้วไม่เกิน 100,000 บาท

จะเห็นว่าสิทธิในการผ่อนปรนภาษีนั้นมีให้เลือกหลากหลายรายการ ก่อนทำการชำระภาษีทุกครั้งอย่าลืมที่จะตรวจเช็คกันก่อนนะคะว่าตัวคุณเองสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีอะไรได้บ้าง เพื่อเป็นผลกำไรของตัวคุณเอง จะได้เสียภาษีน้อยลงหรือได้เงินคืน มีเงินเหลือไปใช้จ่ายในส่วนอื่น ๆ มากขึ้น

 



ขอบคุณบทความจาก : https://www.unicef.or.th/supportus/th/campaign/give_monthly_donation_th

No comments:

Post a Comment