Sunday, March 13, 2016

บริจาคเงิน บริจาคใจ

บริจาคเงิน

บริจาคเงิน มิได้เรื่องยากเข็ญเช่นไรแค่เคลื่อนที่ไปบริเวณปากซอย หยอดสตางค์ใส่กล่องบริจาคในเซเว่นที่ประกอบด้วยอยู่ทุกซอยก็แค่เนี้ยสะดวกจะตายแต่จะมีใครรู้สึกหรือเปล่าว่าสตางค์ไปไหนหยอดแล้วเงินตราไปไหน  ผู้ที่ปรารถนาเงินเป็นอย่างมากที่คอยโอกาสจากข้าเพียงแค่เราบริจาคเงิน คนรับปรารถนาแค่โอกาสที่ดีฉันจะหยิบยื่นให้ แค่บริจาคเงิน กากเงิน เล็กๆน้อยๆนี้ก็สามารถทำอนาคตให้ใครต่อใครมานักต่อนักแล้ว เชื่อหรือเปล่าว่า เงินเหรียญเล็ก ๆที่ดีฉันไม่ใคร่อยากเผื่อไว้ไว้ และเขวี้ยงให้ขอเงินข้างถนน ที่ขนานนามมอบให้หรู ๆว่าฉันได้บริจาคเงินให้พวกเขาทั้งหลายด้วยซ้ำ ก็เพราะว่าเขาไม่ได้ขอร้อง ผมให้ด้วยความสมัครใจ วนิพก ร่ำรวยกว่าผมหลายทบนักเพราะเศษเงินนี่ล่ะ ขอทานบางท่านแรก ๆก็ขอไปงั้น ๆ ไม่มีอย่างไรทำ หลัง ๆ มีเงินทองเก็บมากมายเข้าก็ชักเพลิน กลายเป็นร้องขอจนเป็นนิสัยก็มากมาย เรียกว่าลูกอีช่างขอ แต่ที่ประหลาดกว่านั้นก็เป็นพวกที่ ไม่ได้ขอเช่นเดียวกัน แต่ให้ตั้งชื่อให้ตระการตาว่า บริจาค คนรุ่นเก่า ๆ อาจจะไม่ชินหูชินตากับ การบริจาคเช่นนี้ เพราะว่าเมื่อก่อนนี้ไม่ค่อยจะมี ในเวลานี้ใครมีลูกเต้าวัยกำลังเรียนรู้ก็จะมองเห็นการ บริจาคเงิน ยังงี้ บริจาคเงินทั้งทีจำเป็นต้อง ห้า หมื่นอัพ กับการจะเข้าชั้นเรียนโรงเรียนซักแห่ง อย่างในเวลานี้ ในกรุงเทพฯอาจเห็นภาพไม่ค่อยชัดทั้งนี้เพราะมีตัวเลือกโรงเรียนเยอะแยะ แต่ในต่างจังหวัด มีอำเภอเมือง อำเภอเดียว เด็กนักเรียนของทั่วจังหวัดก็ปรารถนาจะมาเรียนในเมือง วิธีการ บริจาคเงิน ก็เริ่มนี้ ร้องขอสนับสนุนบริจาคเงิน 5 หมื่น ช่วยสถานศึกษา แล้วผู้เยาว์จะได้เรียนรู้ รวดร้าวหรือเปล่า ไม่ชำระก็ได้ แต่ไม่ได้เรียนรู้นี่คือความเป็นจริงอันแสนเจ็บช้ำน้ำใจของประมุขที่มีลูกหลานฉลาดหลักแหลม สอบได้แต่ไม่มีลู่ทางเรียนเพราะด้วยไม่รู้จักคำว่า บริจาคเงิน

 บริจาคเงิน

บริจาคเงิน

บริจาคเงิน หากจะกล่าวไปแล้ว เมืองไทยของกระผมก็ติดอันดับในเรื่องราวการบริจาคเงินกับเขาอย่างเดียวกัน เทียบชั้นคนรวยแถวหน้าก็ว่าได้หากเอาเรื่อง บริจาคเงินมาเป็นตัววัด ปี 2014  กระผมติดระดับ  สาม กรณีบริจาคเงินเลยทีเดียว ก็เพราะว่าคนไทยขี้สมเพชเวทนา พร้อมทั้งการบริจาคเงิน มีผลตรวจหามาแล้วว่าเป็นขั้นตอนที่สะดวกสุด ๆ ที่คนข้าจะบริจาคกัน อย่างระยะนี้ที่มีข่าวออกทีวี ชาวไทยนี้ดี บริจาคให้อารามซะเพียบ จนหัวขโมยมาโจรกรรม ตู้บริจาคไปแล้วถึง แปดใบ ช่วงนี้ก็ต้องรับสละกล่องรับเสียสละไปพลาง ๆการ บริจาคเงิน ในบ้านข้าเป็นที่นิยมบริจาคให้กับสมาคมต่าง ๆ โดยจะเน้นย้ำการบริจาคเงิน มอบให้เพื่อให้อนุเคราะห์ลูกกำพร้า การบริจาคเงิน เพื่อเป็นทุนเล่าเรียนผู้เยาว์ กับหากเป็นช่วงเวลาที่มีปัญหาเรื่องราวหายนะต่าง ๆเช่นปี ห้าสิบสี่ ที่มีน้ำหลากกับปี สี่สิบหก ที่เกิด ซึนามิ ชาวไทยก็มีการ บริจาคเงิน กันอย่างเยอะแยะ ส่วนสิทธิ์ผลที่ได้ถ้ามีการแจก อย่างคนที่บริจาคอย่างอื่นที่มิใช่ตัวเงิน สำหรับบางคนก็ไม่เป็นที่นิยม บริจาคเงิน แต่ จะบริจาคข้าวของเครื่องใช้เครื่องใช้แทน กับ สละเลือด บริจาคเกร็ดเลือดที่อาจจะทำได้ทุกเดือน กับแม้ใครเครื่องใช้ที่เรือนมากหลายก็สามารถพาไปสละได้ หรือใครพร้อมกับที่จะเสียสละร่าง แขนขา ดวงตา ก็สามารถทำได้หากไม่ต้องการบริจาคเงิน การบริจาคเงิน ตรงนั้นปัจจุบันนี้มีการกำหนดเป้าประสงค์ชัดเจน ดังเช่น  บริจาคเงิน เพื่อไถ่ชีวีโคควาย บริจาคเงิน เพื่อให้ จุนเจือน้ำหลาก สิ่งนี้จะเป็นเหตุให้กระผมรู้ว่าเงินข้าพเจ้าไปแห่งไหนบ้าง อย่างที่วัดวาอาราม การบริจาคเงิน บางอาราม บริจาค สิบ บาท ยี่สิบ บาท ก็มีการขึ้นชื่อ แจ้งไว้ว่าใครสละบ้าง ส่วนการใช้ประโยชน์ก็ต้องแล้วแต่วัดว่าจะนำไปใช้ทำเช่นไร

บริจาคเงิน

บริจาคเงิน

การบริจาคเงิน หรือ การบำเพ็ญทานสมัยปัจจุบัน หากจะทำก็ต้องคัดเลือกทำให้ดี ให้ตรงจุด เช่น การซื้อนก ปลา เพื่อนำไปยอม หากมีหมายใจดีก็อย่าไปซื้อ นกปลาที่เขามีการตระเตรียมไว้ มันก็ยังกับไปส่งเสริมให้เขา ไปจับ ไปล่อมาค้า หรือนกที่กระผมปล่อย ๆ ไป มันก็พลิกผันมาที่เดิม ก็นกมันอยู่แต่ในกรงไม่รู้จะไปไหน หรือการ บริจาคเงิน ให้เด็กขอทาน หรือคนวณิพกต่าง ๆ ยิ่งให้ก็ราวกับเป็นการช่วยให้มีวนิพกอยู่ถัด ลองดีฉันไม่ให้ ไม่สนับสนุน เขาก็เลิกขอกันไปเอง การบริจาคเงินประเดี๋ยวนี้ ดูจะเป็นเรื่องราวสามัญ ไปแล้วสำหรับคนทั่ว ๆไป เพราะแค่คิดว่าหยอดไป ไม่กี่เงิน ไม่ต้องคิดกระไรมาก ตัวอย่างเช่น ตู้ที่ตั้งอยู่ในร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ กับในห้างสรรพสินค้าที่ ชำระสตางค์ค่าของใช้เสร็จปั๊บ ก็เจอตู้บริจาค เราก็ทำจนเป็นความชอบพอที่ต้องหยอด โดยไม่รู้เรื่องว่าเงินตรานั้นเอาไปทำอย่างไร เอาไปไหน  กับการบริจาคเงินกับตัวนำต่าง ๆ ที่มีการโหนแนวทางต่าง ๆ ให้ข้าพเจ้า บริจาคเงินกัน เมื่อก่อนจะมีการชวนบุคคลบริจาคเงินด้วยมีการขับลำ คนก็โทรเข้าไปสละเหลือเฟือ แม้ใครมีความคิดที่คิดดูจะเสียสละจริง ๆ ก็กลั่นกรองกันสักนิดก่อนคิดดูที่จะหยอดสตางค์ หรือโอนเงินให้ใคร แม้คิดว่าใช่ ก็บริจาคไปเถอะ อย่างน้อย ๆ ก็ทำให้เบิกบานใจ เงินจะไปใดก็ค่อยมาว่ากัน

บริจาคเงินแล้ว ยกเว้นได้ความพอใจ หากใครบริจาคบ่อย ๆ ก็ลองดูเรื่องราวการลดเงินภาษีไว้บ้าง คนกินค่าจ้างที่ค่าจ้าง 2 สาม หมื่นทางบ.ของดีฉันมีการหักเงินตราได้ส่งเงินภาษีไปทุกเดือนหากกระผม มิได้นำสตางค์ที่ฉันเสียสละ ไปทั่วเดือนมาหักลดภาษีอากร สมมติ เงินเดือน 25,000 รวมเงินพิเศษ อีกเกือบ แปด 9หมื่น รวมแล้วชำระภาษีไป ใกล้ หกพัน ถ้ารับใช้ลูก พ่อ คุณแม่ด้วย พร้อมกับ ใช้สิทธิ์ลดหย่อนจากการบริจาคเงินมาคลุกคลีด้วย ก็จะได้ส่งกลับภาษีแน่ หากฉันสละให้สถานศึกษาตามที่ภาษีเขียนไว้ มากแห่งก็จะนำมาหักลดได้ถึง สองเท่าของยอดเงินตราบริจาค แต่ดังนี้ต้องดูสารบาญจากภาษีควบคู่ไปกับสำหรับจะได้ใช้สิทธิ์ให้เต็มที

บริจาคเงิน กระผมจะสละแห่งไหน ตอนไหน กับให้ใครก็ได้เป็นสตางค์ของฉัน สิทธิ์ของดีฉันที่จะ บริจาคเงิน แต่ ลองดูนิดนึงว่า เขาเอาไปทำกระไร ที่ไหน ให้พร้อมใคร น่าไว้วางใจมากน้อยแค่ไหน อย่าเพียง หย่อน ใส่ตู้ มิได้ดูตาม้าตาเรือ ทำแล้วก็ให้ดีนิด หากผมได้คิด จะ บริจาคเงิน



เครดิต : https://www.unicef.or.th/supportus/th/campaign/Earthquake_Nepal_th

No comments:

Post a Comment