Wednesday, March 9, 2016

มนุษย์เงินเดือนลดหย่อนภาษีอากรอะไรได้บ้าง

ลดหย่อนภาษี

ตามกฎหมายแล้ว บุคคลที่มีเงินได้ทั่วๆไปมีหน้าที่ที่ต้องเสียภาษีบุคคลธรรมดาตามที่นิติบัญญัติ  เพื่อที่รัฐบาลจะได้นำเงินส่วนนี้มาใช้ในการจัดการและปรับปรุงประเทศ เชื่อว่าหลายๆคนคงกำลังมองหาวิธีลดหย่อนภาษีเพื่อที่จะได้ไม่ต้องจ่ายเงินส่วนนี้ถ้วน ก่อนที่จะทำการลดหย่อนภาษีเราต้องมาเรียนก่อนว่าสิทธิในการลดหย่อนภาษีอากรนั้นมีอะไรบ้าง

ในทุกๆปีจะมีการคำนวณเงินได้ทั้งปีและภาษีอากรที่แต่ละบุคคลนั้นต้องชำระ อัตราภาษีจะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับเงินรายได้สุทธิของแต่ละบุคคลในแต่ละปี ซึ่งอัตราภาษีอากรนั้นเราสามารถทำการผ่อนปรนได้ สิทธิในการลดหย่อนภาษีนั้นก็มีให้เลือกหลายประเภท ได้แก่

 

 ลดหย่อนภาษี

ลดหย่อนภาษี

ค่าลดหย่อนส่วนตัว

สามารถผ่อนปรนได้เต็มจำนวน 30,000 บาท สำหรับผู้ที่มีรายได้ทุกคนสามารถใช้สิทธินี้ได้เต็มๆ โดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ

ค่าผ่อนปรนคู่ครอง

กรณีที่คู่สมรสที่ไม่มีเงินได้ หรือเลือกยื่นแบบแสดงบัญชีรวมกัน จะได้สิทธิผ่อนปรนเพิ่มอีกจำนวน 30,000 บาท โดยมีเงื่อนไขคือ คู่สมรสต้องมีการจดทะเบียนสมรสที่ถูกต้องตามกฎปฏิบัติ หรือคู่สมรสต้องไม่มีรายได้ระหว่างปี

ค่าลดหย่อนบุตรธิดา และค่าลดหย่อนการศึกษาบุตร

บุตรตามกฎหมายหรือบุตรบุญธรรมสามารถลดหย่อนได้คนละ 15,000 บาท ใช้หักสูงสุดได้ไม่เกิน 3 คน โดยบุตรต้องมีอายุไม่เกิน 20 ปี แต่ถ้าอายุระหว่าง 20 - 25 ปี ต้องศึกษาเล่าเรียนในระดับ ปวส. ขึ้นไป สำหรับบุตรที่กำลังเล่าเรียนภายในประเทศจะได้ค่าลดหย่อนเพิ่มอีกคนละ 2,000 บาท โดยระดับการศึกษาจะหมายความว่าชั้นอนุบาลจนถึงปริญญาเอก และบุตรต้องไม่มีรายได้ในปีภาษีนั้นๆเกิน 15,000 บาท จึงจะสามารถทำการผ่อนปรนได้

ค่าเลี้ยงดูบุพการี

สำหรับผู้มีรายได้ที่มีบุพการีอายุตั้งแต่ 60 ปีเป็นต้นไป และมีเงินได้ต่อปีไม่เกิน 30,000 บาท โดยผู้มีรายได้ที่จะใช้สิทธินี้ต้องเป็นลูกที่แท้จริง หรือบุตรบุญธรรมที่ถูกต้องตามข้อบัญญัติ โดยสามารถหักผ่อนปรนได้คนละ 30,000 บาท แต่ถ้าบิดามารดามีบุตรหลายคน สามารถใช้สิทธินี้ได้กับบุตรแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่สามารถใช้สิทธิซ้ำกันได้

ค่าประกันลูกกตัญญูกตเวที

ผู้มีรายได้ที่ซื้อ “ประกันลูกกตัญญูรู้คุณ” ซึ่งเป็นประกันสุขภาพอนามัยให้กับพ่อแม่ สามารถนำเบี้ยประกันส่วนนี้มาหักผ่อนปรนภาษีได้ไม่เกิน 15,000 บาท โดยที่บิดามารดาต้องมีอายุไม่ถึง 60 ปี และมีเงินรายได้ต่อปีไม่เกิน 30,000 บาท

ค่าอุปการะอุปถัมภ์ผู้ทุพพลภาพ

สำหรับคนที่ต้องเลี้ยงดูผู้พิการ ที่มีรายรับปีละไม่เกิน  30,000 บาท สามารถนำผ่อนปรนภาษีได้คนละ 60,000 บาท โดยผู้อุปการะและผู้พิการไม่จำเป็นต้องเป็นญาติกันก็ได้ แต่ผู้ทุพพลภาพต้องมีบัตรคนพิการยืนยันตามกฎหมายและผู้เลี้ยงดูต้องอยู่ในรายชื่อผู้ดูแลในบัตรผู้พิการนั้นด้วย จึงจะสามารถทำการลดหย่อนได้

เงินช่วยเหลือสาธารณกุศล

สามารถนำมาผ่อนปรนได้เท่ากับจำนวนรวมที่จ่ายจริง ยิ่งถ้าเป็นการแจกเงินเพื่อการศึกษาเล่าเรียนแล้ว สามารถนำมาหักลดหย่อนได้ถึง 2 เท่า ของจำนวนที่จ่ายจริง แต่ต้องไม่เกิน 10% ของเงินยังเหลือจากการหักค่าลดหย่อนอื่นๆและค่าใช้สอยแล้ว

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

เป็นเงินที่คนงานและเจ้านายตกลงสะสมร่วมกัน โดยคนงานจะจ่ายเงินที่เรียกว่าเงินสะสม และนายจ้างจะจ่ายเงินสนับสนุนให้ลูกจ้างอีกในทุกๆเดือนรวมกัน บริษัทจะบริหารเงินส่วนนี้โดยการนำไปลงทุนเพื่อให้เกิดผล และจะใช้คืนให้กับลูกจ้างเมื่อลาออกหรือปลดเกษียณ เงินส่วนนี้สามารถนำไปผ่อนปรนภาษีได้เท่ากับจำนวนที่จ่ายจริงรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท

กองทุน RMF

เป็นเงินเงินทุนรวมเพื่อการดำรงชีพ สนับสนุนการประหยัดเงินระยะยาวเพื่อวัยเกษียณ สามารถนำไปลดหย่อนภาษีตามที่จ่ายจริงได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้ สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท

กองทุน LTF

เป็นกองทุนรวมหุ้นระยะยาว เพื่อสนับสนุนการลงทุนระยะยาวในหุ้นจดทะเบียน สามารถนำไปลดหย่อนภาษีตามที่จ่ายจริงได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้ สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท

ประกันบำนาญ

สามารถนำเบี้ยประกันมาลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับเงินค่าซื้อหน่วยลงทุนรวมเพื่อการดำรงชีพ และเงินทุนเข้ากองทุนสำรองครองชีพหรือกองบำเหน็จบำนาญราชการ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท และประกันเบี้ยบำนาญที่นำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้ ต้องมีช่วงเวลาในการคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีเป็นต้นไป

ประกันชีวิต

นำมาผ่อนปรนภาษีตามที่จ่ายจริงได้ไม่เกิน 100,000 บาท โดยประกันชีวิตต้องมีระยะเวลาในการคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีเป็นต้นไป ในกรณีที่ไม่มีเงินได้สามารถใช้ลดหย่อนได้เพียง 10,000 บาทเท่านั้น

ดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้าน

สำหรับผู้ที่มีภารกิจในการผ่อนบ้านหรือบ้านพักอาศัย สามารถนำดอกเบี้ยจากการยืมเงินไปลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงไม่เกิน 100,000 บาท ในกรณีที่มีผู้กู้ร่วมหลายคน สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ทุกคนแต่ต้องรวมกันแล้วไม่เกิน 100,000 บาท

จะเห็นว่าสิทธิในการลดหย่อนภาษีนั้นมีให้เลือกหลากหลายรายการ ก่อนทำการจ่ายภาษีทุกครั้งอย่าลืมที่จะตรวจเช็คกันก่อนนะคะว่าตัวคุณเองสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีอะไรได้บ้าง เพื่อเป็นผลกำไรของตัวคุณเอง จะได้เสียภาษีลดลงหรือได้เงินคืน มีเงินเหลือไปใช้จ่ายในส่วนอื่น ๆ มากขึ้น

 



เครดิต : https://www.unicef.or.th/supportus/th/campaign/give_monthly_donation_th

No comments:

Post a Comment