เตรียมตัวก่อนบริจาค

บริจาค

จากหลักคำสอนที่ว่า “ชีวิตคือการให้” ที่เราได้ยินกันอยู่บ่อยครั้งตั้งแต่เด็กจนโต บ้างก็ต่างซึมซับและนำไปดัดแปลงในการดำรงชีวิต บางคนก็เลือกสรรที่จะแบ่งสันปันส่วนให้กับคนรอบข้างอาจจะเป็นสินทรัพย์ เงินทอง สิ่งของต่างๆ หรืออาจจะเป็นความอุปถัมภ์ค้ำชูในแบบแผนต่างๆ ซึ่งเราจะเรียกสิ่งนี้ว่า “น้ำใจ” นั่นเอง หรือเพิ่มปริมาณการให้ที่มากขึ้นในหนทางของ “การบริจาค” ทั้งสิ่งของ เงิน โอกาสหรืออื่นๆ แล้วแต่กรณีและสภาพการณ์ หากพูดถึงการบริจาคหลายๆ ท่านคงจะนึกภาพถึงการบริจาคสิ่งของเนื่องในโอกาสต่างๆ เช่นน้ำท่วม ภัยแล้งหรือภัยพิบัติอื่นๆ หรือที่เราเห็นกันชินตากับการบริจาคสิ่งของ เงินทองไปตามมูลนิธิต่างๆ โรงเรียนตามเขตชายแดนที่ทุรกันดารที่ความเจริญรุ่งเรืองยังเข้าไม่ถึง เพราะถึงแม้ว่าจะปี 2558 แล้วก็ตามแต่สาธารณูปโภคพื้นฐานก็ยังไม่สามารถทั่วถึงในทุกสถานที่ทั่วประเทศไทย

            จากวิธีการให้ในแนวทางต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น หากกล่าวถึง “การบริจาค” แล้วจะมีใครทราบบ้างว่าเราควรเตรียมความพร้อมอะไรบ้างก่อนบริจาคในแต่ละครั้ง บ้างอาจเกิดความเห็นต่างแค่คิดจะบริจาคแล้วจำเป็นต้องเตรียมตัวด้วยหรือ เพียงเงินและสิ่งของก็คงจะเพียงพอแล้ว? คนส่วนใหญ่อาจจะเกิดคำถามและทัศนคติไปในแบบอย่างเดียวกันนี้ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการบริจาคในแต่ละครั้งหากพึงปรารถนาให้ได้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดก็ควรจะเตรียมความพร้อมเสียก่อน

 

ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนบริจาค

1. พิจารณาตนเอง

            ขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุดถือเป็นขั้นตอนขั้นต้นของการบริจาคหรือแม้กระทั่งการลงมือทำสิ่งต่างๆ ในชีวิต เริ่มต้นตั้งแต่การตรวจสอบตนเองว่ามีความพร้อมสำหรับการบริจาคในรูปแบบใดได้บ้างตามที่คุณสะดวกและต้องการ บ้างก็สะดวกโดยการบริจาคในหนทางของตัวเงิน การบริจาคสิ่งของสำหรับแต่ละพื้นที่หรือเหตุการณ์สำคัญๆ หรือแม้แต่การบริจาคด้วยเวลาส่วนตัวผ่านการลงมือปฏิบัติด้วยตนเองหรือการเดินทางไปด้วยตนเอง ทั้งนี้สิ่งสำคัญอีกอย่างคือการลงมือทำโดยไม่ฝืนขีดความสามารถและฝืนความมุ่งหวังของตัวเอง เพียงเลือกสรรวิธีการให้ที่คุณรู้สึกสะดวกและอิ่มอกอิ่มใจที่สุดด้วยความ สมัครใจ เมื่อสำเร็จธุระนอกจากจะอิ่มบุญแล้วยังจะอิ่มอกอิ่มใจได้ด้วย

2. ถิ่นรับบริจาค

            ที่อยู่รับบริจาคจากทั่วประเทศไม่ว่าจะเป็นตามโรงเรียนหรือหมู่บ้านตามเขตชายแดน ตามถิ่นทุรกันดาร มูลนิธิต่างๆ หรือสำนักงานที่เปิดรับบริจาคแบบเฉพาะกิจ และอื่นๆ หากคุณมีความมุ่งมั่นที่จะให้เพียงสละเวลาสักเล็กน้อยหาข้อมูลต่างๆ ที่สัมพันธ์ให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นความไว้วางใจของแหล่งรับบริจาค จากที่อยู่รับบริจาคนับร้อยนับพันที่คุณกำลังให้ความสนใจอยู่ เพียงหาข้อมูลเพิ่มเติมสักนิด คุณตั้งใจจะให้ใครและใครจะได้อรรถประโยชน์มากที่สุดจากการบริจาคของคุณในครั้งนั้น ทั้งนี้เพื่อความปลื้มใจทั้งผู้ให้และผู้รับอีกทั้งคุณจะได้ไม่เสียความรู้สึกในภายหลังหากเกิดข้อผิดพลาดใดๆ ขึ้นมา

3. ของบริจาค

การบริจาคเงินคงจะเป็นวิธีที่มีสลับซับซ้อนและยุ่งยากน้อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการหย่อนตามตู้บริจาคที่พบเห็นตามบริเวณต่างๆ หรือการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร แต่หากคิดจะบริจาคสิ่งของคุณก็ควรจะจัดเตรียมสิ่งของให้พร้อมและเหมาะสมตามความประสงค์ที่แท้จริงของโครงการ เพียงติดต่อสอบถามจากถิ่นรับของบริจาคโดยตรงถึงสิ่งของที่ขาดและจำเป็นแล้วจัดเตรียมตามความพึงประสงค์ของผู้รับ โรงเรียนที่ห่างไกลความก้าวหน้าอาจจะไม่ได้ประสงค์เพียงหนังสือหรือวัสดุอุปกรณ์กีฬาเท่านั้น แม้แต่เครื่องปรุงสำหรับอาหารกลางวันเด็กก็สำคัญไม่แพ้กัน ทั้งนี้ก็ควรคำนึงถึงคุณภาพสิ่งของที่คุณต้องจัดซื้อด้วยเช่นกัน

4. การเดินทาง

สำหรับผู้ที่พึงปรารถนาจะเดินทางไปยังท้องถิ่นรับบริจาคด้วยตนเอง สิ่งสำคัญที่ควรเตรียมความพร้อมคือการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นรถราที่ใช้ สภาพเส้นทางและเส้นทางที่สะดวกที่สุดเพื่อให้การไปถึงยังจุดหมายถูกต้องเป็นไปตามการวางแผนการเดินทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณต้องเดินทางในช่วงที่มีฝนตกสภาพเส้นทางในบ้างแห่งจะไม่พร้อม ยากลำบากและเสี่ยงอันตรายกว่าหรือแม้แต่เส้นทางที่ลาดชัน บางโรงเรียนอาจจะต้องข้ามเขากันเลยทีเดียว ดังนั้นสมรรถนะของยานพาหนะและผู้ขับรถก็สำคัญไม่แพ้กัน ดังที่เราจะรู้ข่าวรถจากคณะทัวร์ผู้บริจาคต่างๆ ที่ต้องประสบอุบัติเหตุจากความไม่คุ้นชินเส้นทางของคนขับ

5. สถานที่รับบริจาค

            จุดหมายที่คุณวางแผนไว้อาจจะอยู่ท่ามกลางป่าเขาที่ห่างไกลความก้าวหน้า ขาดแคลนน้ำดื่มสิ่งอำนวยความสะดวกที่คุณเจอในชีวิตประจำวัน ดังนั้นนอกจากการเตรียมพร้อมสำหรับการบริจาคแล้วการเตรียมความพร้อมให้กับตนเองโดยเกี่ยวเนื่องกับสถานที่ก็เป็นสิ่งที่ควรทำเช่นกัน เพราะบางครั้งคุณอาจจะต้องค้างแรมในสถานที่นั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นตามโรงเรียน วัดหรือหมู่บ้านใกล้เคียง ดังนั้นแน่นอนว่าคงจะไม่สะดวกสบายเหมือนอย่างเคยแน่นอน การดูแลตนเองให้เรียบร้อยไม่สร้างภาระให้แก่ผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมคณะบริจาคหรือเจ้าหน้าที่ประจำถานที่นั้นๆ จะได้ไม่ต้องรบกวนหรือหากตั้งใจความอนุเคราะห์จริงๆ จะได้รบกวนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

            ด้วยการเตรียมความพร้อมก่อนลงมือทำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น “การบริจาค” ที่คุณคิดวางแผนและทำอย่างตั้งใจไว้ก็จะให้ผลตามที่คุณมุ่งหวังไว้ได้อย่างแน่นอน อีกทั้งคุณยังสามารถประยุกต์ขั้นตอนต่างๆ เหล่านี้กับสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย สิ่งสำคัญคือการสร้างอรรถประโยชน์ให้ได้มากที่สุดและสร้างภาระให้แก่ผู้อื่นน้อยที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ เพียงเท่านี้การให้ของคุณก็จะสุขใจทั้งผู้ให้และผู้รับอย่างแน่นอน

ขอบคุณบทความจาก : https://www.unicef.or.th/supportus/th/campaign/Earthquake_Nepal_th