Thursday, March 10, 2016

บริจาคเงิน บริจาคใจ

บริจาคเงิน

บริจาคเงิน มิใช่เรื่องยุ่งยากสิ่งไรแค่ก้าวเดินไปย่านปากซอย หยอดเงินตราใส่ลังบริจาคในเซเว่นที่ประกอบด้วยอยู่ทุกซอยก็แค่เนี้ยง่ายๆจะตายแต่จะมีใครรู้หรือเปล่าว่าสตางค์ไปไหนหยอดแล้วสตางค์ไปไหน  ผู้ที่ประสงค์เงินมากมายที่คอยโอกาสจากข้าเพียงแค่กระผมบริจาคเงิน คนรับปรารถนาแค่ลู่ทางที่ข้าจะหยิบยื่นส่งให้ แค่บริจาคเงิน กากเงิน เล็กๆน้อยๆนี้ก็อาจจะทำเบื้องหน้าให้ทุกคนมานักต่อนักแล้ว เชื่อหรือเปล่าว่า เงินตราเหรียญเล็ก ๆที่เราไม่ใคร่อยากได้เก็บไว้ กับทอยให้ขอเงินข้างถนน ที่เรียกหาให้หรู ๆว่าข้าพเจ้าได้บริจาคเงินให้เขาด้วยซ้ำ ก็เพราะว่าเขาไม่ได้บิณฑบาต ผมให้ด้วยความเต็มใจ คนขอทาน ร่ำรวยกว่าข้าหลายเท่านักเพราะกากสตางค์นี่แหละ วนิพกบางท่านแรก ๆก็ขอไปงั้น ๆ ปราศจากอะไรทำ หลัง ๆ มีเงินตราเก็บมากมายเข้าก็ชักเพลินใจ กลายเป็นขอจนเป็นนิสัยก็เยอะ ปรากฎว่าลูกอีช่างขอ แต่ที่ละเอียดกว่านั้นก็เป็นพวกที่ ไม่ขอเช่นกัน แต่ให้ตั้งชื่อให้สง่าว่า บริจาค คนรุ่นเก่า ๆ อาจจะไม่สนิทกับ การบริจาคดังนี้ เพราะก่อนหน้าไม่ค่อยจะมี ทุกวันนี้ใครมีเด็กวัยกำลังเรียนก็จะมองเห็นการ บริจาคเงิน อย่างนี้ บริจาคเงินทั้งทีจำเป็นต้อง ห้า หมื่นอัพ กับการจะเข้าห้องเรียนโรงเรียนซักแห่ง อย่างประเดี๋ยวนี้ ในกทม.อาจเห็นภาพไม่ค่อยชัดด้วยมีตัวเลือกโรงเรียนเยอะแยะ แต่ในชานเมือง มีอำเภอเมือง อำเภอเดียว นักเรียนจากทั่วจังหวัดก็ปรารถนาจะมาเล่าเรียนในเมือง ขั้นตอน บริจาคเงิน ก็เริ่มต้นนี้ ขอสนับสนุนบริจาคเงิน ห้า หมื่น ช่วยสถานที่เรียน แล้วเด็กจะได้ศึกษา ร้าวรานหรือเปล่า มิจ่ายก็ได้ แต่ไม่ได้เรียนนี่คือความสัตย์จริงอันแสนเจ็บร้าวของผู้ดูแลที่มีบุตรเฉลียวฉลาด สอบได้แต่ปราศจากหนทางศึกษาเล่าเรียนสำหรับไม่คุ้นเคยคำว่า บริจาคเงิน

 บริจาคเงิน

บริจาคเงิน

บริจาคเงิน หากจะพูดไปแล้ว ไทยของฉันก็ติดอันดับในเรื่องการบริจาคเงินกับเขาด้วย เปรียบชั้นคนมีเงินแถวหน้าก็ว่าได้ถ้าหากเอาเรื่องราว บริจาคเงินมาเป็นตัววัด ปี สองพันสิบสี่  ดีฉันติดระดับ  สาม กรณีบริจาคเงินเลยทีเดียว โดยคนไทยขี้สมเพชเวทนา พร้อมกับการบริจาคเงิน มีผลสำรวจมาแล้วว่าเป็นกระบวนการที่ไม่ยากสุด ๆ ที่คนข้าจะเสียสละกัน อย่างปัจจุบันนี้ที่มีข่าวออกทีวี ชาวไทยนี้ดี บริจาคให้วัดวาอารามซะมากหลาย จนคนร้ายมาจี้ ตู้บริจาคไปแล้วถึง แปดใบ ช่วงนี้ก็ต้องรับเสียสละกล่องรับเสียสละไปพลาง ๆการ บริจาคเงิน ในบ้านพักอาศัยดิฉันนิยมสละให้กับสมาคมต่าง ๆ โดยจะเน้นการบริจาคเงิน มอบให้เพื่อให้สนับสนุนกำพร้า การบริจาคเงิน เพื่อเป็นทุนการศึกษาเยาวชน พร้อมกับถ้าหากเป็นคราวที่มีปมปัญหากรณีพิบัติต่าง ๆเช่นปี 54 ที่มีอุทกภัยกับปี 46 ที่เกิด สึนามิ คนไทยก็มีการ บริจาคเงิน กันอย่างล้นหลาม ส่วนสิทธิ์คุณประโยชน์ที่ได้มาหากมีการให้ อย่างคนที่สละอย่างอื่นที่ไม่ใช่เช่นนั้นตัวเงิน ทั้งนี้เพราะบางคนก็ไม่นิยม บริจาคเงิน แต่ จะเสียสละเครื่องใช้เครื่องใช้ทดแทน หรือ สละเลือด เสียสละเกร็ดเลือดที่สามารถทำได้ทุกเดือน กับถ้าใครสิ่งของที่ที่อยู่อาศัยเยอะก็สามารถชี้ทางบริจาคได้ กับใครกับที่จะบริจาคร่าง แขนขา ดวงตา ก็อาจจะทำได้หากมิอยากได้บริจาคเงิน การบริจาคเงิน นั้นพักนี้มีการกำหนดเป้าหมายชัดเจน อาทิ  บริจาคเงิน เพื่อให้ไถ่ชีวิตโคกระบือ บริจาคเงิน สำหรับ อนุเคราะห์น้ำหลาก สิ่งนี้จะทำเอาข้าพเจ้ารู้ว่าเงินตราผมไปที่ไหนบ้าง อย่างที่อาราม การบริจาคเงิน บางอาราม บริจาค 10 บาท ยี่สิบ บาท ก็มีการขึ้นชื่อเสียงเรียงนาม แจ้งไว้ว่าใครบริจาคบ้าง ส่วนการนำไปใช้ก็ต้องตามใจอารามว่าจะใช้ประโยชน์ทำกระไร

บริจาคเงิน

บริจาคเงิน

การบริจาคเงิน หรือ การบำเพ็ญทานสมัยนี้ หากจะทำก็ต้องเลือกสรรทำให้ดี ให้ตรงจุด ตัวอย่างเช่น การซื้อนก ปลา เพื่อชี้นำไปยอม หากมีความตั้งใจดีก็อย่าไปซื้อ นกปลาที่เขามีการจัดเตรียมไว้ มันก็ราวกับไปส่งเสริมให้เขา ไปจับ ไปล่อมาซื้อขาย กับนกที่ดีฉันปล่อย ๆ ไป มันก็กลับมาที่เดิม ก็นกมันปรากฏแต่ในกรงไม่รู้จะไปไหน กับการ บริจาคเงิน ให้เด็กวนิพก หรือคนวนิพกต่าง ๆ ยิ่งให้ก็เหมือนกับเป็นการเลี้ยงดูให้มีวณิพกอยู่ถัด ลองฉันไม่ให้ ไม่สนับสนุน เขาก็เลิกขอกันไปเอง การบริจาคเงินเดี๋ยวนี้ ดูจะเป็นเรื่องราวโดยทั่วไปแล้ว ไปแล้วสำหรับคนทั่ว ๆไป เพราะแค่คิดว่าหยอดไป ไม่กี่ตังค์ ไม่ต้องคิดอะไรมาก อาทิ ตู้ที่ตั้งอยู่ในร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ หรือในห้างที่ ชำระเงินค่าของใช้เสร็จปั๊บ ก็เจอตู้บริจาค ฉันก็ทำจนเป็นความเคยที่ต้องหยอด ด้วยไม่รู้ว่าสตางค์นั้นเอาไปทำอะไร เอาไปไหน  กับการบริจาคเงินกับสื่อต่าง ๆ ที่มีการโหนแนวทางต่าง ๆ ให้ฉัน บริจาคเงินกัน เมื่อก่อนจะมีการชักชวนบุคคลบริจาคเงินโดยมีการเจรียง คนก็ติดต่อเข้าไปสละเยอะ หากใครมีใจที่ได้คิดจะบริจาคจริง ๆ ก็ทบทวนดูกันสักนิดก่อนครุ่นคิดที่จะหยอดสตางค์ หรือโอนเงินให้ใคร ถ้าคิดว่าใช่ ก็เสียสละไปเถอะ อย่างน้อย ๆ ก็ทำให้ภูมิใจ เงินตราจะไปใดก็ค่อยมาว่ากัน

บริจาคเงินแล้ว นอกจากได้ความสบายใจ หากใครสละบ่อย ๆ ก็ลองดูเรื่องราวการลดภาษีอากรไว้บ้าง คนกินเงินเดือนที่ค่าจ้าง 2 3 หมื่นทางบริษัทของข้าพเจ้ามีการหักเงินตราได้ส่งเงินภาษีไปทั่วเดือนหากข้า มิได้นำสตางค์ที่ข้าเสียสละ ไปทั่วเดือนมาหักลดหย่อนเงินภาษี หาก ค่าจ้างรายเดือน 25,000 รวมเงินพิเศษ อีกโดยประมาณ แปด 9หมื่น รวมทั้งสิ้นแล้วจ่ายภาษีอากรไป เฉียด หกพัน ถ้าเอาอกเอาใจบุตร พ่อ มารดาด้วย กับ ใช้สิทธิ์ลดจากการบริจาคเงินมาประสานด้วย ก็จะได้คืนภาษีเป็นแน่แท้ หากฉันสละให้สถานที่เรียนตามที่ภาษีอากรเขียนไว้ เยอะแยะแห่งก็จะนำมาหักลดได้ถึง สองเท่าของยอดสตางค์บริจาค แต่เช่นนี้ต้องดูบัญชีรายชื่อจากภาษีควบคู่ไปด้วยเพื่อจะได้ใช้สิทธิ์ให้มากพอ

บริจาคเงิน ผมจะเสียสละแห่งไหน ครั้งไหน กับให้ใครก็ได้เป็นสตางค์ของเรา สิทธิ์ของดีฉันที่จะ บริจาคเงิน แต่ ลองนิดนึงว่า เขาเอาไปทำอย่างไร ที่ใด ให้พร้อมกับใคร น่าศรัทธามากน้อยแค่ไหน อย่าแค่ โยน ใส่ตู้ ไม่ดูตาม้าตาเรือ ทำแล้วก็ให้ดีนิด ถ้าดิฉันคิดดู จะ บริจาคเงิน



ขอบคุณบทความจาก : https://www.unicef.or.th/supportus/th/campaign/Earthquake_Nepal_th

No comments:

Post a Comment